Qu'est ce qu'une chambre d'hôte ? (โฮมสเตย์)
Dormez chez nous, vous êtes chez vous
(นอนบ้านเรา เหมือนนอนบ้านคุณ)
La chambre d'hôtes ou le ' bed and breakfast ' à la française :
- Pour une ou plusieurs nuits, vous serez reçus (ได้รับการต้อนรับ กริยา recevoir ใช้กับคนแปลว่าต้อนรับ ใช้กับของแปลว่า ได้รับ) en amis (เหมือนเป็นเพื่อน) chez des particuliers (เอกชน ชาวบ้าน) qui ont aménagé (ปรับปรุง จัดเตรียม) leur maison (ferme, mas (บ้านชนบทในภาคใต้), gentilhommière (ปราสาทเล็ก ๆ ในชนบท), château...) avec un maximum (มากสุด) de 5 chambres.

- Toujours inclus (รวมไว้ด้วย หมายถึงอาหารเช้า) dans le prix de la nuitée (ราคาต่อคืน), un petit-déjeuner copieux (อย่าไปปนกับคำว่า copy เพราะจะเข้าใจผิดว่าอาหารซ้ำ ๆ เหมือน ๆ กัน แต่ copieux หมายถึง มากมาย เต็มไปด้วยความหลากหลาย) sera pour vous l'occasion (สำหรับคุณแล้วนี่คือโอกาส) de découvrir (ค้นพบ สัมผัส) les différentes spécialités locales (อาหารพื้นบ้านจานเด็ด). Selon les addresses (ไม่ใช่ที่อยู่ แต่หมายถึงความสามารถส่วนบุคคล) et l'inspiration (แรงบันดาลใจ) de votre hôte (เจ้าบ้าน), vous apprécierez (ชื่นชมลิ้มรส) les confitures maison (แยมบ้าน ฝีมือเจ้าของบ้าน), le pain de campagne frais (ขนมปังอบสด pain de campagne เป็นขนมปังก้อนกลม ๆ ใหญ่ ๆ มีรอยบากข้างบน), mais aussi les viennoiseries (ขนมหวานชั้นดี คล้าย ๆ กับขนมชาววังบ้านเรา) ou les pâtisseries maison (ขนมหวาน เค้ก หรืออื่น ๆ ตำรับพื้นบ้าน), les fromages (เนยแข็ง) et les laitages (อาหารจากนมอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต) ou la charcuterie régionale (อาหารจำพวกเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม). Dès (ตั้งแต่) le début (เริ่มต้น) de la journée, ce sera loccasion (เป็นเวลา เป็นโอกาส) dun moment fort (เป็นเวลาสำคัญ) d'échanges (แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำความรู้จัก)et de convivialité (ความเป็นกันเอง แบบคนในบ้านเดียวกัน).
อาจารย์ต้นเคยไปนอนโฮมสเตย์ที่บริเวณ Massif central แถว ๆ Dornas ตอนเช้าเจ้าบ้านเอาน้ำผึ้งเป็นสิบ ๆ ชนิด มาให้เราลองชิม รสชาติอร่อยหวานหอมต่างกันไป มีทั้งจากดอกทานตะวัน ดอกโน่นดอกนี่ ดอกอะรูมิไร้ (ดอกอะไรมิรู้) เราก็กินจนอิ่มแปล้ จากนั้นก็ยึดโต้ะตีปิงปองของเจ้าของบ้าน เปิดศึกตีปิงปองกับเพื่อนอีกสองคนที่มาด้วยกันแบบ อยู่บ้านเขา เหมือนอยู่บ้านเรา แล้วก็พาหมาเจ้าของบ้านไปเดินเล่นเหมือน หมาของเรา หน้าตาเฉย ตอนที่ไปอากาศค่อนข้างหนาว ประมาณห้าถึงสิบองศา แต่บรรยากาศมันสวยงาม ทำให้อาจารย์อดใจไม่ไหวที่จะออกเดินลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำสายเล็ก ๆ แบบไม่กลัวหลงทาง เผอิญติดสมุดวาดภาพไปด้วย ก็เลยได้ไปยืนวาดภาพสายน้ำจากบนสะพาน แล้วก็มีคุณลุงมาทักว่าเป็นศิลปินเหรอ พอเห็นเราพูดภาษาฝรั่งเศสได้ก็เลยคุยกันอยู่นาน สุดท้ายก็เลยวาดรูปไม่เสร็จ เพราะหนาวจนมือแข็ง เลยต้องหนีกลับมาบ้านหาไออุ่นและขนมอร่อย ๆ ตามเคย