ออรองเฌอรี (Orangerie) คือชื่อสวนสาธารณะที่อยู่ตรงข้ามสภายุโรป ออรองเฌอรีหมายถึงตึกหรือเรือนกระจกที่เอาไว้เก็บต้นส้มหรือต้นไม้ตระกูลส้มในช่วงฤดูหนาว เพื่อไม่ให้ต้นไม้โดนหิมะและความหนาวเล่นงานจนตาย เราชอบมาเดินเล่นที่นี่กับเพื่อน ๆ มากเพราะมีอะไรหลายอย่างให้ทำ ที่สำคัญ ทิวทัศน์และบรรยากาศที่นี่ดีมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้จะเปลี่ยนสีใบจากสีเขียวเป็นสีส้มแดงพราวเต็มสวนไปหมด เวลาลมพัดมาจะเห็นใบไม้ร่วงพลิ้วเป็นสาย ใบไม้สีส้มแดงตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวเข้มในวันแดดจัดนั้นมองเท่าไรก็งดงามไม่มีวันเบื่อ เรากับเพื่อนคนไทยออกไปถ่ายรูปมาด้วยกันหลายรอบ ขนาดกล้องปัญญาอ่อนของเราถ่ายออกมายังได้ภาพสวยแทบไม่เชื่อสายตา
![](http://www.bonjourajarnton.com/images/column_1324221620/orangerie-bonjour.jpg)
ในสวนออรองเฌอรีมีที่เล่นโบว์ลิ่ง ทุกคืนวันศุกร์จะมีโปรโมชั่นลดพิเศษให้กับนักศึกษา เราเคยไปเล่นอยู่ครั้งสองครั้ง ครั้งที่สนุกที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่ไปกับเพื่อนที่สถาบันฯ เท่าที่เราจำได้มี เฟรด อาเหม็ด คัทเธอรีนและเพื่อนกรีกอีกสองสามคน แต่รวม ๆ แล้วน่าจะเกือบสิบคนอยู่เหมือนกันเพราะมีเพื่อนต่างสถาบันมาร่วมเล่นด้วย เราตกลงจับคู่แบ่งทีมกัน เราจับคู่ได้กับอาเหม็ด (อีกแล้วครับท่าน) ยังเข็ดกับการพายเรือด้วยกันไม่หาย ก็ต้องเผชิญวิบากกรรมร่วมกันอีกแล้ว
ตูม เริ่มโยนครั้งแรกเฟรดก็สไตรค์ให้สาว ๆ ได้กรี๊ดทันที
![](http://www.bonjourajarnton.com/images/column_1324221620/bowling-bonjour.jpg)
โป้ง ขลุก ๆๆๆๆ ผลุบ อาเหม็ดโยนลูกโบลิ่งสูงลิ่ว ก็เลยตกลงพื้นเสียงดังสนั่นก่อนที่กลิ้งลงรางข้าง ๆ ล้างท่อสะอาดไปหนึ่งลูก เสียงเพื่อน ๆ โห่ดังลั่นอยู่ข้างหลัง เราเห็นอาเหม็ดบ่นอะไรพึมพัมแต่จับใจความไม่ได้เพราะหนวดรุงรังบังปากจนมิด
โป้ง ขลุก ๆ ผลุบ คัทเธอรีนเธอโยนลูกท่าเดียวกับอาเหม็ด แต่สูงน้อยกว่า ลูกตกลงมาแล้วแทบจะนิ่งอยู่กับที่ เพื่อน ๆ ต้องลุ้นให้มันไหลลงรางตัวโก่ง ก็ฉันเล่นไม่เป็นนี่ คัทเธอรีนพูดไปค้อนไป จริตจะก้านสาวกรีกนี่น่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง
ตูม ฟึด เราเหวี่ยงลูกออกไปเต็มเหนี่ยว ลูกกลิ้งแล้วเริ่มเบี้ยวแถเข้าหาราง แต่ก่อนลงท่อก็ยังอุตส่าห์เฉี่ยวพินเอาลงไปด้วยสองอัน ก็ยังดีวะ เรานึกในใจ แต่อาเหม็ดคงไม่ถูกใจเท่าไหร่เพราะหวังให้เรากู้คะแนนกลับมาบ้าง
เราผลัดกันสไตรค์ผลัดกันล้างท่อหลายที สาว ๆ กรีกเริ่มออกอาการเหนื่อย โยเยไม่ยอมออกไปโยน อีกอย่างบางคนเริ่มเล็บฉีก ก็เลยต้องมีการยืมตัวกันจ้าละหวั่น สรุปแล้วคืนนั้นเราก็เลยโยนกันไปแย่งกันมาจนมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าทีมไหนแพ้หรือชนะ แต่ทุกคนพูดตรงกันว่า คืนนั้นสนุกและมีความสุขจริง ๆ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถ้าวันไหนเลิกเรียนเร็วเราก็จะชวนเพื่อนมานั่งดูนกเป็ดน้ำกับนกกระสาที่นี่ ที่สตราสบูร์กเราจะเห็นนกกระสาตัวใหญ่ ๆ เต็มไปหมด มันชอบทำรังตามต้นไม้หรือไม่ก็ตามปล่องไฟเหมือนในหนังเปี๊ยบ รังของมันมีขนาดใหญ่และหนักมากถึงขนาดทำให้ปล่องไฟถล่มลงมาได้เลยทีเดียว ว่ากันว่า ถ้าครอบครัวไหนอยากได้ลูก ให้เอาน้ำตาลมาวางที่ขอบหน้าต่าง นกกระสาจะมากิน แล้วก็จะคาบลูกมาให้เหมือนในหนังการ์ตูนที่เราเคยดู จะงอยปากนกกระสาใหญ่และเมื่อกระทบกันจะมีเสียงดัง ปั่ก ปั่ก เวลาอยู่ด้วยกันเป็นฝูง เสียงจะดังสนั่นไปหมด
![](http://www.bonjourajarnton.com/images/column_1324221620/zoo-bonjour.jpg)
เรากับเพื่อนชอบดูนกเป็ดน้ำร่อนลงน้ำ แต่ละตัวท่าจะไม่ค่อยเหมือนกัน พวกเราก็จะทำหน้าที่เหมือนกรรมการประกวดยิมนาสติก คอยให้คะแนนนกแต่ละตัวเวลาร่อนลงน้ำ ตัวไหนลงสวยมากก็ได้เก้าบ้างสิบบ้าง ตัวไหนลงน้ำกระจายก็ได้ห้าได้หก มีการตัดแต้มถ้าเสียการทรงตัว ปีกไม่เท่ากันหรือหางแพนไม่สวย สนุกไปอีกแบบ
วันหนึ่งในช่วงฤดูหนาว เราชวนแคทเธอริน่า สาวสวยจากเบลเยียมไปเดินเล่นในออรองเฌอรี เพื่อไปถ่ายรูปกับหิมะ เธอก็ยินดีออกมาด้วย เราเดินคุยกันมาเรื่อยจนถึงสระน้ำ
ดูนั่นสิ แคทเธอริน่าชี้แล้วหัวเราะ เรามองตามนิ้วเธอ ปรากฏว่ามีขนมปังก้อนเบ้อเริ่มถูกแช่แข็งอยู่
สงสัยปลามันจะเก็บไว้กินตอนหน้าร้อน เธอบอก
นี่ถ้าปลามันเผลอตอดอยู่นาน ๆ อาจถูกแช่แข็งไปด้วยแน่ ๆ เราเริ่มจินตนาการเกินจริง
![](http://www.bonjourajarnton.com/images/column_1324221620/avec-kath-bonjour.jpg)
พอเราเจอฉากสวย ๆ ก็เริ่มถ่ายรูปกัน เราจัดท่าจัดทางให้เธอ เธอก็ทำตามแล้วก็หัวเราะคิกคักไปด้วย
มาถ่ายรูปคู่กันเถอะ เราเสนอ
ดี เอาสิ แต่ใครจะถ่ายให้ล่ะ เธอถาม
กล้องถ่ายอัตโนมัติได้ แต่ต้องหาที่ตั้ง ว่าแล้วเราก็เดินมองหาที่ตั้งกล้อง ทันใดนั้นเราก็เห็นเสาสูงขนาดเอวเรา เราก็ลองเอากล้องวางแล้วจัดมุมกล้อง แต่เนื่องจากหัวเสาไม่เรียบ กล้องก็เลยหมุนไปหมุนมาได้ เราขยับวางจนได้ที่
ยืนตรงนั้นดีแล้ว เว้นที่ไว้ให้เราด้วย จะตั้งเวลาแล้วนะ เราตะโกนบอกเธอ พอกดปุ่มนับถอยหลัง เราก็รีบเผ่นไปยืนชิดกับเธอ แต่ไม่กี่วินาทีก่อนลั่นชัตเตอร์ ก็มีลมแรงพัดมาวูบหนึ่ง กล้องก็เริ่มหมุนพวกเราก็เลยต้องขยับตัวตามกล้องที่ส่ายไปส่ายมาเพราะไม่อยากหลุดเฟรม เราสองคนหัวเราะส่งเสียงดังจนฝรั่งคนอื่นหันมามองว่าเราทำอะไรกัน
จากนั้นเราก็พากันเดินไปดูนกฟลามิงโก ในสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในออรองเฌอรี นกตัวใหญ่สีชมพูยืนหลับตาบนขาเดียวเรียงเป็นทิวแถว
มันจะหนาวไหมนะ เราถามลอย ๆ
หนาวสิ ไม่งั้นมันจะยืนขาเดียวหรือ แคทเธอริน่าตอบกวน ๆ เราก็เลยเอาไหล่กระแทกเธอเบา ๆ ไปหนึ่งที
ตัวนี้สวยจัง เธอชี้ให้เราดูนกฟลามิงโกขนงามตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ริมกรง ขนของมันพลิ้วไปตามแรงลม นกอะไรก็ไม่รู้ สง่างามจริง ๆ เธอชื่นชมนกตัวนั้นเป็นอันมาก
นั่นสิ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมระบำนกฟลามิงโกถึงได้สวยงามจับใจเหลือเกิน เราพลอยเคลิ้มไปกับเธอด้วย
เราสองคนขยับเข้าไปใกล้เพื่อมองมันชัด ๆ มันคงได้ยินเสียงก็เลยชูคอขึ้นมาแล้วหันมามองเรา
สวยจังเนอะ แคทเธอริน่ารำพึงแล้วโน้มตัวลงไป
อือ เราตอบ ตามองนกไม่กระพริบ
แพรด อ้าว ไอ้นกเวร ไหงมาขี้แตกตอนนี้วะ ทั้งเราทั้งแคทเธอริน่ากระโดดถอยกรูดออกมา เพราะกลัวอึนกเหลว ๆ ที่พุ่งออกมาอย่างแรงจะกระเด็นใส่ แคทเธอริน่าหัวเราะเหมือนคนเสียสติไปพักหนึ่ง ไอ้นกเวร ทำเสียบรรยากาศหมด
หวังว่าเขาคงไม่ได้บรรจุท่านี้ไว้ในระบำนกฟลามิงโกนะ เธอพูดแล้วปล่อยก๊ากออกมาอีกจนน้ำหูน้ำตาไหล วันนั้นเรากลับบ้านอย่างสติแตก มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะเป็นวักเป็นเวร
ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเธอ ฉันต้องนึกถึงนกฟลามิงโกขี้แตกด้วยแน่นอน เราพูดไปหัวเราะไปจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
บ้า เธอตอบแล้วก็หัวเราะออกมาอีก จากนั้นเราก็ไม่เคยเฉียดเข้าไปดูนกที่ออรองเฌอรีกันอีกเลย