7. จตุรัสเกลแบร์ (Kléber)
จตุรัสเกลแบร์ อยู่ใจกลางเมืองสตราสบูร์ก เป็นศูนย์การค้าและเป็นจุดต่อรถ คนจึงพลุกพล่านทั้งวัน รอบ ๆ จตุรัสจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เต็มไปหมด ร้านอาหารที่เราชอบเป็นพิเศษในย่านนี้ก็คงเป็นร้าน ฟลันช์ (Flunch) ร้านฟลันช์เป็นร้านแบบบริการตนเอง อาหารที่นี่มีให้เลือกมากมายหลายชนิด อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วย เราติดใจไก่ย่างที่นี่เป็นพิเศษ เพราะเนื้อนุ่มหนังกรอบกินกับมันฝรั่งทอดอร่อยดีแท้ อีกทั้งยังมีพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งเป็นคนลาว อัธยาศัยไมตรีดีที่สุด เวลามีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษก็มักจะคอยบอกนักเรียนไทยอยู่เสมอ ๆ

จตุรัสเกลแบร์เป็นลานกว้าง ล้อมรอบด้วยตึกโบราณ มีรถรางวิ่งผ่านใกล้ ๆ มักใช้เป็นสถานที่จัดงานต่าง ๆ ทุก ๆ เทศกาลคริสมาสต์จะมีต้นสนต้นมหึมามาตั้ง ตกแต่งไว้อย่างสวยงามตระการตา ถัดออกไปไม่ไกลนักจะมีม้าหมุนรูปทรงโบราณติดไฟระยิบระยับเต็มไปหมด ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เห็นแล้วก็อยากขึ้นไปนั่งดูสักรอบสองรอบ ยิ่งในช่วงเทศกาลจะมีร้านค้าขายของเต็มไปหมด เวลาออกมาเดินบนถนนตอนอากาศหนาว ๆ เราจะสอดส่ายสายตาหาร้านขายเกาลัดทุกครั้ง เพราะรสชาติของเกาลัดร้อน ๆ เวลาอากาศหนาว ๆ มันอร่อยกว่ากินตอนอากาศร้อนถึงหลายร้อยเท่า เวลาขาย คนขายจะตักลูกเกาลัดใส่กรวย กรวยหนึ่งมีประมาณ 5-6 ลูก ราคาคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 70 บาท ถึงจะแพงแต่ก็ห้ามใจไม่อยู่สักครั้ง
วันหนึ่ง เราเดินเล่นบนถนนเลียบจตุรัสเกลแบร์ กะว่าจะไปดูมหาวิหารที่อยู่ถัดออกไปเล็กน้อย จังหวะที่เลี้ยวตรงมุมตึก ก็มีชายฝรั่งเศสคนหนึ่งสวนออกมา ทันทีที่ปะหน้าเรา เขาก็กระโดดหลบด้วยเพราะกลัวชนกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่คงเสียจังหวะ ก็เลยลื่นพรืดแล้วหงายหลังลงไปนอนกับพื้น
ขอโทษครับ เราอุทานออกไปโดยไม่ทันคิด
ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นส่ายหัวแล้วบ่นอะไรพึมพำเหมือนกับต้องการบอกว่าไม่เป็นไรก่อนที่จะรีบจ้ำพรวด ๆ หายเข้าไปในฝูงคน ปล่อยให้เรายืนงงอยู่คนเดียวว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
พอเราเดินต่อมาอีกนิด ก็เห็นนักศึกษาสาวยุโรปที่เราไม่รู้ว่าชาติใดกันแน่ ขี่จักรยานเงอะ ๆ งะ ๆ สวนทางมา เรายังคิดในใจว่าคนมากมายแบบนี้ไม่น่าขี่จักรยาน ควรจะลงเดินแล้วจูงเอาจะดีกว่า ยังนึกไม่ทันจบ เธอก็ขี่จักรยานชนบั้นเอวหญิงชราคนหนึ่งที่กำลังเดินจูงมือกับสามีวัยไม้ใกล้ฝั่งเหมือนกัน สาวน้อยรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่ขณะที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวนั้น สามีหญิงชราก็ตบเปรี้ยงเข้าไปที่หน้าเธอ สาวน้อยยืนงงทำอะไรไม่ถูก
ประสาทหรือเปล่า ทำอย่างนั้นได้ยังไง เสียงคนเห็นเหตุการณ์ตะโกนออกมา
เกินไปหน่อยแล้วมั้ง เสียงผู้หญิงอีกคนดังมาจากข้าง ๆ ถนน
ชายชราคงได้ยินก็เลยรีบจูงมือภรรยาเดินก้มหน้างุด ๆ หายไป ปล่อยให้สาวน้อยยืนประคองรถยิ้มแหย ๆ ด้วยความไม่เข้าใจและนึกไม่ถึงว่าจะเจอกับคนแบบนี้ เราสงสารเธอจับใจ นี่อาจเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเกลียดคนฝรั่งเศสไปตลอดชีวิตก็ได้
ตรงหัวมุมจตุรัสเกลแบร์มีร้านมาร์คแอนด์เสปนเซอร์อยู่ เราชอบเข้าไปเดินดูเสื้อผ้าที่นี่ เพราะราคาไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ วันหนึ่งเราตัดสินใจซื้อเสื้อกันหนาวสีน้ำเงินเข้มทำด้วยเส้นใยสังเคราะห์ไปหนึ่งตัว ตั้งใจเอาไว้ใส่ทำเท่ห์มากกว่าใส่กันหนาว เฟาซีเห็นเข้าก็ชอบใจ ถามว่าเราซื้อมาจากไหน
ซื้อจากร้านมาร์กแอนด์เสปนเซอร์ที่เกลแบร์ เราตอบ
พาไปดูหน่อยสิ เผื่อจะซื้อบ้าง เฟาซีบอก
ได้ แต่ห้ามซื้อสีเดียวกันนะ ไม่อยากเจอคู่แฝด เราบอกตรง ๆ เพราะไม่ชอบเจอคนใส่เสื้อเหมือนกัน มันหมดความมั่นใจยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก
สองสามวันต่อมาเราก็พาเฟาซีไปดูเสื้อที่ร้านมาร์กฯ แล้วเราก็ดันใส่เสื้อตัวที่เพิ่งซื้อมาไปด้วย เฟาซีเลือกเสื้ออยู่สักพักแล้วก็ตัดสินใจไม่ซื้อ เพราะสีไม่ถูกใจ เราก็เลยจะไปดูที่ร้านอื่น ขณะที่จะเดินออกก็มี รปภ. คนดำตัวใหญ่ของห้างเดินตามมา ทีแรกเราก็ไม่คิดอะไร ยังคงเดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยขณะที่มุ่งหน้าไปยังทางออก รปภ. รายนี้เดินประกบเราจนเราเริ่มผิดสังเกต ทันใดนั้นเราก็เริ่มเข้าใจ เพราะตัวเราเองใส่เสื้อตัวสวยที่เพิ่งซื้อจากร้านไปเมื่อวันก่อนนี่เอง ทางร้านคงคิดว่าเราคิดจะขโมยเสื้อแน่นอน
ขอเดินดูกางเกงหน่อยได้ไหม เราบอกเฟาซี
ได้ อยากดูเหมือนกัน เฟาซีตอบ
ว่าแล้วเราก็เดินวกขึ้นชั้นสองไปอีกรอบ รปภ. ล่ำบึ้กก็เลยต้องเดินตามเราขึ้นไปข้างบน เราลากเฟาซีเดินในห้างจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง กลับไปกลับมาจนรปภ.สุดหล่อไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่เดินตามเราตาไม่กระพริบ
เมื่อยแล้ว ของไม่ถูกใจด้วย ไปที่อื่นดีกว่า เฟาซีบ่น
ดี ๆ ไปกันเถอะ ว่าแล้วเราก็ลากเฟาซีลงบันไดเลื่อนมายังชั้นล่าง รปภ.ที่รักของเรายังตามมาประกบติดอยู่ข้างหลัง กะว่าถ้าเราเดินผ่านเครื่องตรวจที่หน้าประตู แล้วมันร้องปี๊ดขึ้นมา คงจะถลาเข้ามาล็อกเรา แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และรอรับคำชมจากเจ้านายละซี เสียใจด้วย เราเดินตัวปลิวผ่านเครื่องตรวจที่เงียบเสียยิ่งกว่าสากกะเบือ ก่อนพ้นประตูเรายังหันหน้าไปมองแล้วยิ้มนิด ๆ ให้กับรปภ. ผู้ซื่อสัตย์ของร้าน จังหวะนั้นเรานึกถึงอีกาในเรื่องอาราเร่กับดร. สลัมพ์ ที่มักจะร้องเวลาบินผ่านหลังคาบ้านว่า อาฮ่อย งี่เง่า