หลังจากรู้จักการเปลี่ยนเพศชายเป็นเพศหญิงแล้ว เราจะมารู้จักการเปลี่ยน
เอกพจน์เป็นพหูพจน์
หลักการเปลี่ยนนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีพอสรุปได้ดังนี้
1. เติม S ท้ายคำ (แต่ไม่ออกเสียง S) เช่น
une maison ð des maisons บ้าน ออกเสียงว่า เม-ซง ไม่ต้อง เม-ซงสสสสสสสสส์ แปลกดีแท้ ภาษาอังกฤษบังคับให้ออกเสียง S ท้ายคำแทบตาย ก็ยังคงเป็น อิด อิ๊ด (It is) ทั้งปีทั้งชาติ พอฝรั่งเศสเขาให้ไม่ให้ออก ก็ออกอยู่นั่น เอาน่ะ เดี๋ยวตัวไหนเขาให้ออกจะรีบบอกทันที สัญญา
une voiture ð des voitures รถ (เด วัว-ตูร์)
un livre ð des livresหนังสือ (เด ลิฟ-เวรอะ)
2. คำนามที่ลงท้ายด้วย s, x, z ไม่เปลี่ยนรูป เช่น
un pays ð des pays ประเทศ (เด เป-อี)
un bus ð des bus รถบัส (ออกเสียง เด บุส) นี่ไง ออกเสียง S ให้เต็มที่
un cactus ð des cactusตะบองเพชร (เด กัก-ตุส) ออกเสียง S เหมือนกัน
3. คำนามที่ลงท้ายด้วย -eau, -eu และ -ou บางตัว ให้เติม x เช่น
un bateau ð des bateaux เรือ (เด บา-โต)
un château ð des châteaux ปราสาท (เด ชา-โต)
un cheveu ð des cheveux เส้นผม (เด เฌอ-เวอ)
un bijou ð des bijoux เพชรพลอย (บิ-ฌู)
4. คำนามที่ลงท้ายด้วย -al ให้เปลี่ยนเป็น -aux เช่น
un journal ð des journaux หนังสือพิมพ์ (เด ฌูก-โน)
un hôpital ð des hôpitaux โรงพยาบาล (เด-โซ-ปิ-โต)
5. คำนามบางตัวเปลี่ยนรูปเมื่อเป็นพหูพจน์ เช่น
monsieur ð messieurs คุณ (ผู้ชาย), นาย (เม-ซิ-เยอ)
madame ð mesdames คุณ (ผู้หญิง), นาง (เม-ดาม)
mademoiselle ð mesdemoiselles คุณ (ผู้หญิง), นางสาว (เมด-มัว-แซล)
un œil ð des yeux ดวงตา (เด-ซี-เยอ)