
บทที่ 2 ทำความรู้จัก (ต่อ)
ในบทที่ 1 สอนวิธีการเปิดและปิดการสนทนาแบบง่าย ๆ ไปบางส่วนแล้ว บทที่ 2 จะเพิ่มเติมเผื่อเอาไว้อีกสักเรื่อง
จากประสบการณ์ เวลาแนะนำชื่อตัวเองกับฝรั่ง ฝรั่งจะงงทุกทีเพราะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อคนไทย และมักจะถามกลับมาว่า อะไรนะ เช่น
- Good morning. Im Apichart. And you?
- Pardon? Whats your name? {พาร์ดั๊น วอทส์ยัวร์เนม}
ถ้าเจอแบบนี้ก็ค่อย ๆ บอกเขาว่า My name is A-pi-chart. ถ้าฝรั่งยังทำหน้างง ๆ ก็สะกดให้เขาสักหน่อยจะเป็นไรไป A-p-i-c-h-a-r-t, Apichart. แต่ถ้าชื่อคุณออกเสียงยากมาก ๆ หรือเสี่ยงต่อการเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น นางสาวฟักมี (ใกล้คำว่า F...ck me หรือ มาอึ้บฉันสิอย่างเลี่ยงไม่ได้) หรือ นายพินิศ (ใกล้คำว่า Penis ซึ่งแปลว่าอวัยวะเพศชาย) ก็ตั้งชื่อฝรั่งให้กับตัวเองเสียเลยสิ้นเรื่อง อย่างที่ชาวจีนหรือไต้หวันเขานิยมทำกัน เพราะทำให้ฝรั่งจดจำชื่อเราได้ง่ายขึ้น เวลาจะนึกถึงหรือเรียกขานก็จะง่าย ชื่อฝรั่งเก๋ ๆ ก็มีมากมาย ของผู้ชายเช่น Phil, Keven, Kevin, Kelvin, Bob, Tom, Sam ส่วนของผู้หญิงก็มีอย่าง Anna, Annette, Sophie, Laura, Rose อะไรทำนองนี้ เลือกมาเถิดสักชื่อ แล้วคุณจะเห็นว่าการสื่อสารกับฝรั่งจะง่ายขึ้นอีกเยอะ
ถ้าฝรั่งพยายามจำชื่อเรา แต่จำไม่ได้สักที ก็บอกไปเลยว่า
- My English nickname is Tony. {มายอิงลิชนิคเนมอีส โทหนี่} ชื่อเล่นภาษาอังกฤษผมคือโทนี่ (ของไทยเรียกโทนี่ แต่ฝรั่งจะออกเสียง โทหนี่)
- Ahhh! Tony!
ฝรั่งจะดีใจมากที่จะได้ไม่ต้องใช้เวลาทั้งวันมานั่งท่องชื่อเรา แถมยังป้องกันไม่ให้เขาเรียกชื่อเราผิดมั่ว ๆ ด้วย คราวหน้าพอเจอหน้ากัน จะได้ทักทายกันได้อย่างไม่เคอะเขิน ขอยืนยันว่า การลืมชื่อคู่สนทนาเป็นอุปสรรคสำคัญในการสานต่อความสัมพันธ์ ดังนั้น จงหาชื่อง่าย ๆ ให้ฝรั่ง เขาจะได้ทักทายเราได้สะดวกใจ แล้วก็จำชื่อฝรั่งให้แม่น ๆ ด้วยก็จะดี เพราะหลายครั้ง คนไทยไม่กล้าเข้าไปทักฝรั่งที่เคยคุยด้วย เหตุเพราะลืมชื่อฝรั่งนั่นเอง
ทีนี้บทสนทนาเราก็ยาวขึ้น
- Good morning. Im Apichart. And you? {กึดมอร์นิง อัมอภิชาต แอนยู้}
- Pardon? Whats your name? {พาร์ดั๊น วอทส์ยัวร์เนม}
- My name is A-pi-chart. A-P-I-C-H-A-R-T, Apichart.
- A-pi
What????
- My English nickname is Tony. {มายอิงลิชนิคเนมอีส โทหนี่}
- Ahhh! Tony! Hi. Im Harry. Glad to know you. {อ้าาา โทหนี่ ไฮ อัมแฮรี แกลดทุโนวยู}
- Glad to know you, too. Are you working here? Or you are a student? {แกลดทุโนวยูทู อาร์ยูเวิร์กกิงเฮี๊ยร์ ออร์ยูอาร์ เอ สทิวดึ้นท์}
- Well, Im a computer graphic designer. {เวล อัมเอคัมพิวเทอร์ แกรฟฟิก ดีไซเหน่อร์}
- Oh, great! Im an employee in a company. A software development company. We sell business software solutions. {โอ เกรท อัมแอนเอมพลอยยิ อินเอคัมพะหนี่ เอ ซอฟท์แวร์คัมพะหนี่ วีเซลบิซิเนสซอฟต์แวร์โซลุชึ่นส}
............................................................
- Well, Ive got to go. Glad to meet you and hope to see you again. {เวล อัฟก็อตทุโก แกลดทุมีททิว แอนด์โฮปทุซียูอะเกน}
- Thank you. See you later. {แธงกิว ซียูเลเทอร์}
คำว่า Pardon (พาร์ดัน) แปลว่า อะไรนะ หรือพูดอีกทีสิ ต้องฝึกให้ติดปากไว้เลย หรือจะใช้ Again please ก็ได้ แต่ Pardon ดูน่าใช้มากกว่า เพราะฟังไม่เหมือนไปสั่งเขาเหมือน Again please เช่น
- Well, Im a computer graphic designer.
- Pardon?
- Im a computer graphic designer.
บางทีถ้าได้ยิน Pardon me? ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะคนอเมริกันจะพูดแบบนี้ ...จบ