ReadyPlanet.com


กลับมาจากจีนแล้ว


ในที่สุดก็กลับมาอย่างเหนื่อยอ่อน งวดนี้ไปจีนมีเรื่องสนุกสนานมากมาย วันเดินทางกลับต้องนั่งรถมาส่งลูกค้าในเมืองแถวกว่างโจว ทางบริษัทจีนจัดรถให้เรียบร้อยก็มาขึ้นรถตอนประมาณ 5 ทุ่ม เป็นรถเก๋งคันกำลังดี นั่งคุยกับฝรั่งจนฝรั่งหลับ แต่ อ. ต้นไม่หลับเพราะกลัวถูกล่อลวง ฮ่า ๆ พอนั่งมาได้สัก 1.5 ชั่วโมง รถก็แวะจอดข้างทาง (เอ๊ะ รึว่าฝันจะเป็นจริง) แล้วจู่ ๆ ก็มีคนเข้ามานั่งในรถอีกคน (เอาละสิ) ฝรั่งก็เกิดอาการโกรธขึ้นมาว่าเราจ้างรถมาส่งที่โรงแรม แล้วเอาคนอื่นมาขึ้นรถด้วยได้ยังไง ว่าแล้วก็ด่า ๆๆๆๆๆ (แต่คนจีนฟังไม่ออกหรอก อ. ต้น ต่างหากที่เข้าใจเต็มสองรูหู) เราก็พยายามบอกว่าอาจไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ ว่าแล้วก็พยายามโทรหาบริษัท เวรกรรมอะไรไม่รู้ โทรไม่ติดเลยไม่ว่าจะเป็นมือถือใคร กดจนมือหงิก ฝรั่งก็เลยตัดสินใจโดดพรวดลงจากรถ เปิดกระโปรงหลังคว้ากระเป๋าเดินจ้ำอ้าว แล้วเราจะอยู่ทำไมล่ะ ว่าแล้วก็โดดตามไปติด ๆ ดีนะกระเป๋าเล็ก ลากง่าย ไม่หนัก ไม่งั้นตายแน่ คนขับรถก็พยายามขับรถตาม ตะโกนให้ขึ้นมา ฝรั่งก็ไม่ยอมขึ้นกลับเดินเข้าไปในโรงแรมอะไรไม่รู้แล้วก็ไปสั่งให้พนักงานไปเรียกรถแท็กซี่มาให้ (เฉยเลย) เด็กโรงแรมนั่นก็ใจดี อุตส่าห์ไปเรียกมาให้ โหแท็กซี่ยังกับโจรแน่ะ ไม่ยอมกดมิเตอร์ (เอ๊ะ นึกว่าเป็นแต่ที่เมืองไทย) ตัวมันใหญ่มาก ถ้าสู้กันไม่ไหวแน่ แต่ฝรั่งเราตัวใหญ่ 180 กว่า พอฟัดพอเหวี่ยงกัน เถียงกันอยู่พักนึง ก็ยอมกดมิเตอร์ รถวิ่งมาได้ 20 กว่านาที ฝรั่งก็ถามเราว่า แน่ใจเหรอว่ามาทางนี้ อ้าว พระเจ้าเหาไหนจะตอบได้ล่ะ แต่บังเอิญจำได้ว่าต้องวิ่งย้อนผ่านสนามบิน เหลือบดูเห็นสัญลักษณ์สนามบินก็เลยพอโล่งใจ พออีกสัก 20 นาทีผ่านไป ผ่านตึกขายอุปกรณ์ทำผมที่จำได้ก็เลยบอกฝรั่งว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้ว หลังจากนั้นอีกแป๊บนึง เห็นแมคโดนัลด์ที่หมายตาไว้ (เอาไว้กินเวลาอยากจัด ๆ) ก็เลยฟันธง คอนเฟิร์ม ฝรั่งค่อยยิ้มออกหน่อย เฮ้อ พอถึงโรงแรมก็แยกย้ายกันขึ้นห้อง อ่า เรื่องยังไม่จบ ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังมาก แล้วทีวีก็ดันอยู่บริเวณหัวนอนเราพอดี อ. ต้นเลยตัดสินใจออกมาดูหมายเลขห้องแล้วจะโทรลงไปรีเซพชั่นให้จัดการหน่อย แต่คงรีบและโมโหง่วงจัดไปหน่อย ลืมเอาคีย์การ์ดออกมา แป่ว.... ก็เลยต้องเดินลงไปหารีเซพชั่นทั้งชุดนอนหวิว ๆ อย่างนั้นแหละเพื่อบอกให้มาเปิดห้อง พอพนักงานมาถึงห้องจะบอกเรื่องเสียงดังสักหน่อย มันก็ดันนกรู้ปิดเสียงซะเงียบกริบ ให้มันได้อย่างนี้สิ

รุ่งเช้าขณะกินข้าว บริษัทโทรมาถามว่า ลงจากรถทำไม เราก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง บริษัทบอกว่า คนขับเป็นคนของบริษัท แล้วไอ้ที่ขึ้นมานั่งด้วยน่ะ เพื่อนเขา คนขับไปโรงแรมไม่ถูก ก็เลยขอให้เพื่อนมาช่วยบอกทาง ป้าดโธ่ววววว แล้วมาบอกอะไรกันตอนนี้ ให้มันได้อย่างนี้สิ เลยตามเลยก็แล้วกัน เพราะฝรั่งแยกทางกลับไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว คราวหน้าคราวหลังก็บอกรายละเอียดสักหน่อยจะดี ปล่อยให้เราเดาหลงไปโน่น

กินข้าวเสร็จ เก็บข้าวเก็บของค่อย ๆ เดินทางไปสนามบิน ไปเอาเงินมัดจำค่าห้องจากเคาน์เตอร์คืน พอถึงสนามบินก็จ่ายตังค์ให้แท็กซี่ คนขับบอกว่าแบ๊งค์ปลอม เฮ้ย ปลอมได้ไงจำได้ว่าเบิกมาจากเอทีเอ็ม ก็เลยส่งใบใหม่ให้ แล้วก็ลองเอาไปถามจากร้านในสนามบินว่า ใบนี้จริงหรือปลอม พนักงานก็เอาเข้าเครื่อง เครื่องมันร้องปี๊ดว่าปลอมแหง๋ม ๆ ก็เลยนึกทบทวนว่ามันมาจากไหน ถึงบางอ้อทีหลังว่า โรงแรมมันสอดไส้มาตอนไปเอามัดจำคืนแน่ ๆ เอาเข้าไป ขาดทุนไปเลย 500 บาท ได้แบ๊งค์มาฉีกเล่นสมใจ

ยัง... ยังไม่จบ ขณะรอเช๊คอิน มีคน 2 คนมองหน้าแล้วก็คุยกัน เราได้ยินว่า คนไทยอะเป่าฟะ อีกคนบอกคนจีนมั๊ง ว่าแล้วก็พ่นภาษาจีน "นร่ำดนรหก่ดาหดืนรแอน ฉิกกะโป๊ง ๆๆ " อะไรไม่รู้ใส่เรา อ. ต้น ก็ส่งภาษาอังกฤษกลับแบบผู้ดี "ส่อหรี๋" เค้าก็มองหน้าเราแล้วถามว่า "ไท้กว๋อเหริน" เออสิ คนไทยแต้ ๆ ว่าแล้วก็โอดโอยขอน้ำหนักจากเรา เพราะซื้อของมาเยอะจนน้ำหนักเกิน (จะไม่เกินได้ยังไง ขนมาตั้งสามกล่องขนาดยักษ์ เอาตู้เย็นกลับบ้านหรือไง) อ. ต้นก็มองหน้าแล้วก็บอกว่า ไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร เกิดเป็นของผิดกฏหมาย ติดคุกอดสอนหนังสือแน่ (กลัวได้เป็นคณบดีในคุก) เขาก็โอดโอยว่าเชื่อผมเถอะว่าปลอดภัย อ. ต้นก็ตอบว่าเชื่อ แต่ให้ไม่ได้ ตามหลักสากลเขาไม่ทำกัน มันไม่ปลอดภัย ว่าแล้วก็รีบปราดเข้าไปเช็คอินส่งกระเป๋าขึ้นเครื่องทันที สงสารก็สงสารนะ แต่มันไม่เหมาะสม และเสี่ยงเกินไปสำหรับเรา

แล้วก็มารอ ๆๆๆๆๆๆ ตอนใกล้ขึ้นเครื่อง มีฝรั่งที่ไม่ค่อยเป็นฝรั่งมาเดินถ่ายรูป ถ่ายหนัก ๆ เข้าก็มาขอให้เราถ่ายให้ ก็เลยคุยด้วยเป็นภาษาอังกฤษ ได้ความว่าเป็นคนเลบานอน มีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อกาส ทำงานออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับ คุยไปเรื่อยจนมาถึงเรื่องภาษา อ. ต้นบอกว่าพูดฝรั่งเศส อังกฤษ ไทย กาสก็ตาโตแล้วบอกว่า Je parle francais aussi. คราวนี้เลยสนุกกันใหญ่ กาสพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยไปอยู่ฝรั่งเศส ทำได้ยังไงนะ บนเครื่องอ. ต้นนั่งคนเดียว กาสก็เลยถือโอกาสย้ายมานั่งด้วยแล้วก็ คุยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กันจนถึงเมืองไทย ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งเพื่อน ภาษาพาไปอีกแล้ว



Post by อ. ต้น :: Date 2008-12-11 22:25:14 IP : 124.120.193.187


[1]

Opinion No. 1 (2919767)
ของฝาก !!!
By c'est moi Date 2008-12-12 18:41:20 IP : 58.64.31.2


Opinion No. 2 (2919817)
เอาเมลามีนไป 1 แท่ง
By อ. ต้น Date 2008-12-12 20:52:20 IP : 124.120.195.75


Opinion No. 3 (2920218)
อึ๋ย!! เมลามีน ปิงชอบกินค่ะจารย์ อิๆ
By paopoey Date 2008-12-13 19:00:22 IP : 58.9.78.62


Opinion No. 4 (2920255)
เมลามีน หรือ เมลาแมน?????
By อ. ต้น Date 2008-12-13 20:08:40 IP : 124.120.183.182


Opinion No. 5 (2920619)

ฉันจะลง กทม. คืนพรุ่งนี้

อยู่วันอังคารและพุธ เพื่อประชุม และประชุม

คืนวันพุธกลับ

เฮ้อ..เหนื่อย

By c'est moi Date 2008-12-14 17:13:36 IP : 58.64.31.2


Opinion No. 6 (2920745)
อังคารเย็น ๆ ว่าง เรียกใช้งานได้
By อ. ต้น Date 2008-12-14 23:38:44 IP : 124.120.189.37


Opinion No. 7 (2920907)
ไม่เอาของฝาก แต่จาเอาmagazineที่สัญญาว่าจาส่งให้อะ คริคริ
By แบงค์ Date 2008-12-15 11:30:46 IP : 203.172.210.101


Opinion No. 8 (2921396)
ยืนยันว่ายังไม่เคยลืม คริ ๆ แต่ที่ลืม คือลืมหยิบเอาออกไปส่ง ฮ่า ๆ
By อ. ต้น Date 2008-12-16 08:45:18 IP : 124.120.190.64



[1]


Opinion
Opinion *
By  *
E-Mail 
Don't Display E-mail



Copyright © 2010 All Rights Reserved.