อ่านะ...เรื่องตั้งคำถามต้องเริ่มจากอ่านคำตอบให้ออกก่อนว่า เขาตอบว่าอะไร เช่น ถ้าตอบว่า

วันนี้ พรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีหน้า ก็แสดงว่าต้องถามว่า เมื่อไหร่ quand est-ce que

Quand est-ce que tu viens?

Je viens demain.

ที่นี่ ที่นั่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน ก็ต้องถามว่า ที่ไหน où est-ce que

Où est-ce que tu travailles?

Je travaille à l"école.

โจอี้ พี่ น้อง พ่อ แม่ ก็ต้องถามว่า ใคร qui est-ce qui (ทำหน้าที่ประธาน เพราะถามว่า ใครร้อง)

Qui est-ce qui chante?

Pierre chante.

Qui est-ce que (ทำหน้าที่กรรม เพราะถามว่าเธอเห็นใคร)

Qui est-ce que tu vois?

Je vois Pierre.

บ้าน รถ ขนม คอมพิวเตอร์ ก็ต้องถามว่า อะไร

Qu"est-ce qui (ทำหน้าที่ประธาน เช่น อะไรตก)

Qu"est-ce qui tombe?

Une pomme tombe.

Qu"est-ce que (ทำหน้าที่กรรม เช่น เธอต้องการอะไร)

Qu"est-ce que tu veux?

Je veux une voiture.

ของฉัน ก็ต้องว่า ของใคร เป็นต้น A qui appartient cette voiture?

Elle m"appartient.

ส่วน oui/non จะเป็นคำตอบของคำถามที่ต้องการคำตอบว่า ใช่หรือเปล่า ไปหรือเปล่า เธอหรือเปล่า เขาใช่ไหม อย่างนี้เป็นต้น มักจะใช้ตอบคำถามที่ขึ้นต้นด้วย

Est-ce que เช่น

Est-ce que tu viens avec moi?

Oui, je viens avec toi.

หรือคำถามที่ขึ้นต้นด้วยกริยา

Viens-tu avec moi?

Non, je ne viens pas avec toi.

ไม่รู้ว่าตรงที่ต้องการหรือเปล่า สงสัยตัวไหนเป็นพิเศษตั้งกระทู้ถามไว้นะครับ อาจารย์จะไปทำงานเมืองจีนสองสามวัน ใครรู้คำตอบก่อนก็ช่วยกันตอบด้วยเน้อ

ขอบคุณอาจารย์ต้นมากๆ

พิมพ์ซะเข้าใจเลย

แต่ยังงงตรง

A qui appartient cette voiture?

Elle m"appartient.

ทำไมมันไม่เป็น qui appartient cette voiture?

มี A มาทำไมอะครับ

ตอบง่ายมากครับ เพราะกริยา คือ appartenir à

ต้องเก็บ préposition ไว้เวลาตั้งคำถาม เหมือน ๆ กับ A quoi penses-tu? คิดถึงเรื่องอะไรอยู่ มาจาก penser à ไงครับ

อีกอย่างต้องท่อง preposition ไว้ด้วยจะได้รู้ว่า นามที่ตามหลังต้องเป็นกรรมรอง

ดังนั้นเวลาต้องตั้งคำถามว่า พวกเธอมาจากไหน ก็ต้องใช้กริยา Venir de ก็เลยกลายเป็น D"où venez-vous? ไม่ใช่แค่ Où venez-vous? แล้วเขาก็จะตอบว่า Nous venons de Paris. เข้าใจหรือยังครับว่า prepo สำคัญแค่ไหน ท่องไว้ไม่เสียเปล่าครับ

ผลิตภัณฑ์ : เอเฟรช วิท อัพ (Afresh WIT UP)

สูตรลับพิเศษ เหมาะสำหรับสุภาพบุรุษต้องการเป็นชายชาตรี ต้อง WIP UP

http://img222.imageshack.us/img222/9964/wituppro.jpg

อาหารเสริมสุขภาพเพื่อชายชาตรี
คืนความเป็นชายให้ชายให้กลับมาสมบูรณ์ อีกครั้ง

http://www.arjiw.notlong.com

คำถามแรกที่ต้องตอบ

1. หนูชอบภาษาฝรั่งเศสหรือเปล่า ถ้าไม่ชอบ เรียนแล้วทรมาน หนูก็เรียนได้ไม่ดี แต่ถ้าชอบ ก็ต้องมาดูต่อว่า

2. หนูตั้งใจเรียนที่โรงเรียนมากแค่ไหน ถ้าหนูตั้งใจเรียนแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ต้องมาดูต่อว่า

3. กระบวนการเรียนหนูดีหรือเปล่า เพราะเวลาสอน อาจารย์ยังเตรียมสอน แล้วนักเรียนมาเรียน หนูจะไม่เตรียมเรียนเลยหรือ  การเตรียมตัวมาเรียนเป็นกระบวนการหนึ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจบทเรียนได้ดีมาก ๆ การเตรียมตัวเรียนก็ไม่ยาก เปิดดูหนังสือคร่าว ๆ ว่าวันนี้เราจะเรียนอะไรกัน ถ้าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เราก็ไปหาความรู้เพิ่มเติม ถ้ามีศัพท์ไม่รู้จัก เราก็หาเตรียมไว้ (นักเรียนชอบเห็นครูเป็นดิกชันนารี่เคลื่อนที่ เอะอะ ก็จะรอให้ครูบอก) จากนั้น เราก็ต้องกลับบ้านไปทบทวน เพราะอาจารย์บอกได้เลยว่า เรียนภาษาที่โรงเรียนไม่พอ ต้องเรียนต่อที่บ้านเองด้วย การทบทวนก็แค่อ่านคร่าว ๆ ว่าวันนี้เราเรียนอะไรมาบ้าง ให้ศัพท์ผ่านหูผ่านตา ที่ให้อ่านแค่คร่าว ๆ ก็เพราะเราผ่านการอ่านเนื้อหามาแล้ว 2 ครั้ง คือ 1. เตรียมเรียน 2. เรียนในห้องเรียน และ 3. ก็คือการทบทวนที่บ้าน ดังนั้นอ่านคร่าว ๆ ก็เข้าใจแล้ว จดศัพท์ยาก ๆ มาไว้สำหรับท่องก็ด้วยได้ เวลาท่องก็ไม่ต้องท่องมาก วันละ 4-5 ตัวก็พอ แต่ให้ท่องทุกวัน

เรื่องอ่านไม่ออก ส่วนใหญ่เกิดจากศัพท์น้อย อันนี้แก้ง่าย (แต่ทำยาก) ก็คือต้องท่องศัพท์ ทีละน้อย ๆ แต่สม่ำเสมอนะ

ไวยากรณ์ต้องวางฐานให้ดีแต่แรก เพราะทุกคำ ทุกกาล ทุกกฎ ในภาษาฝรั่งเศสจะเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน ถ้าหลุดอันใดอันหนึ่ง ก็จะพาให้อีกอันหนึ่งงงไปด้วย ส่วนใหญ่ปัญญาไวยากรณ์จะเด่นชัดใน ม. 5 เพราะเป็นปีทีต้องเรียนไวยากรณ์เยอะ ถ้าฐานม. 4 ไม่แน่น ม. 5 แย่แน่ ทางแก้ง่าย ๆ เห็นข้อมูลทบทวนภาษาฝรั่งเศสทางซ้ายมือไหม ค่อย ๆ อ่านศึกษาทีละเรื่องสองเรื่อง จะเป็นการทบทวนพื้นฐานภาษาฝรั่งเศสทั้งหมดที่หนูเรียนที่โรงเรียน หนูจะแก้ไขปัญหานี้ได้หรือเป่ล่าตอนนี้ขึ้นอยู่กับตัวหนูเอง เพราะใน 20 คนที่มีปัญหา จะมีแค่ 10 คนที่กล้ายอมรับว่าตัวเองมีปัญหา แต่จะมีแค่ 1-2 คนเท่านั้นที่ตั้งใจแก้ปัญหา สู้ไม่สู้

Retard mieux que jamais. ทำช้า ดีกว่าไม่ทำเลยนะครับ (แต่จะให้ดี ทำเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า)

ขอบคุณ

ขอบคุณครับ ภาษาฝรั่งเศสก็เหมือนทุกภาษานะครับ ที่ต้องใช้เวลาในการศึกษา โอกาสพูดผิดออกเสียงผิดก็ย่อมมีเหมือนกับภาษาแม่ของเราครับ ทำยังไงให้ผิดน้อย แล้วสื่อสารกันรู้เรื่องตรงประเด็น น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับคนต่างชาติครับ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกเป๊ะ ๆ ทั้งหมดก็ได้ครับ แต่คงจะต้องใช้เวลาเรียนหนัก ๆ หลายสิบปีทีเดียว เพราะขนาดภาษาไทยเราเอง เอาเข้าจริง บางครั้งพูดผิดก็เป็นธรรมชาติกว่าพูดถูกครับ

ว่าง ๆ มาเล่าชีวิตที่ฝรั่งเศสให้ฟังบ้างนะครับ ว่าอยู่เมืองไหน เรียนอะไร จะได้ขอความรู้

อ้อ สุดสัปดาห์นี้ก็จะแวะไปอัลซาสสักอาทิตย์นึงครับ ไปวางแผนงานวิจัยและพักผ่อนบ้าง หวังว่าอากาศจะดี เพราะที่เมืองไทยนี่ ฝนตกทุกวันครับ

อาจาร์ยได้นำความรู้ที่เรียนมาสอนให้กลับคนหลุ่นหลัง ดีมากครับ

เพราะเขาเหล่านี้จะเป็นอนาคตของชาติ และเพื่อตัวของเขาเอง

อยากได้คำถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์เป็นภาษาฝรั่งเศสอะค่ะ

ช่วยบอกหน่อยสิค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ต้นมากนะคะ จะสอบแล้วค่ะ เวบนี้ช่วยได้มากเลย

หลายๆประเทศ เคยมีคู่แข่งเป็นประเทศไทย

แล้วปัจจุบัน ทุกๆประเทศก็ข้ามไทยไปหมดแล้ว ^^

แต่ผมคือคนนึงที่จะไม่ยอมให้ใครมาบอกว่า เยาวชนไทย โง่...

เพราะหลัง ง มันยังมี ฉ อยู่ ^^

ขอแค่ไม่ลงที่ จ ก็พอ อิอิ

ปล. ง=โง่ , ฉ=ฉลาด , จ=จบ

ปล2.ฝากอะไรนิดนึงครับ เวลาทำอย่าคิดว่าคนอื่นมองว่าบ้า

แต่ให้คิดว่าเราทำมันได้จริงๆ แล้วมันจะประสบผลสำเร็จ^^

อิอิ อบรมธุรกิจแล้วคิดออกมาได้

เรียนรู้ ระบบการทำงาน หลายๆอย่างจริงๆครับ ได้อะไรๆเยอะเลย

ESBI >>> อ.ต้นพอจะเดาได้หรือพอจะรู้ป่ะครับว่าย่อมาจากคำว่าอะไรบ้าง ^^

อิอิ เอามาจากที่ไปนั่งฟังๆหลังเลิกเรียน

มันแยกเป็นระดับอ่ะครับ มันเป็นตัวย่อเกี่ยวกับธุรกิจนิดหน่อยอ่ะครับ ^^ มันจะแบ่งง่ายๆประมานนี้

Active income (วิ่งหาเงิน)

E=Employee

S=Sales employee

Passive income (เงินวิ่งหา >>> ใช้networkเป็นประโยชน์)

B=Business

I=Investor

เอิ้กๆ มานั่งดูอนาคตตัวเองผ่านส่องฝั่งนี้ ว่าอนาคตจะไปอยู่ฝั่งไหน อิอิ

cash flow quadrant