ReadyPlanet.com


Est-il possible?


สวัสดีค่ะ มีเรื่องเกี่ยวกับภาษาอยากเล่าให้อาจารย์ต้นฟังน่ะค่ะ คือหนูไม่เข้าใจเลย ว่า หนูเคยไปอยู่ที่ฝรั่งเศสมา 2 ปี น่ะค่ะ คือก็ด้วยความที่อยากพูดเป็นเร็วๆ น่ะค่ะ ช่วงแรกที่ไปอยู่ ไม่ฟังเพลงไทยเลยนะคะ ไม่ได้พูดภาษาไทยด้วย เพราะไม่เจอคนไทยอยู่แล้ว ขยันมากๆช่วงนั้น เช่าหนังมาดู ท่องคำคัพท์ จนตอนนี้คำคัพท์ภาษาฝรั่งเศสของหนูเยอะกว่าภาษาอังกฤษแล้วค่ะ อย่างคำว่า สนุก คำว่า ขยัน หนูยังรู้ ตั้ง สาม สี่ คำ แต่ภาษาอังกฤษ หนูรู้แค่คำเดียว หรือ บางคำที่เราไม่ได้ใช้บ่อยๆ อย่างพวก ที่แขวนเสื้อหนาว เครื่องล้างจาน อะไรทำนองนี้ภาษาฝรั่งเศสหนูยังรู้ แต่ภาษาอังกฤษไม่รู้เลย ตอนนี้ ใช้ภาษาฝรั่งเศสได้ดีกว่าภาษาอังกฤษ เพราะขยันกว่าทุ่มเทกว่า รู้จักไวยากรณ์ลึกซึ่งกว่า ด้วย แต่ หนูไม่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องเหมือนภาษาอังกฤษเลย ซึ่ง ตอนที่หนูไป summer ที่ Londres สามเดือน แต่ เพียงเดือนเดียวตอนนั้น ภาษาอังกฤษของหนูนี่ติดปีกพูดได้เป็นต้อยหอยเลย ค่ะ คือพูดคล่องเท่ากับภาษาไทยเลยค่ะ คือปกติเวลาอยู่เมือง เราฟังเค้าพูด คำพูดเข้าสมอง แล้วสมองแปล สมองสั่ง งานเป็นไทย แปลเป็นอังกฤษ ปากค่อยตอบ แต่ตอนนั้น ไม่ต้องเลย ค่ะ มันเป็นไปโดยอัติโนมัติ ซึ่งเดือนเดียวหนูก็พูดได้คล่องเหมือนภาษาไทยแล้ว แต่ฝรั่งเศส ต้องใช้เวลานานค่ะ กว่าจะพูดคล่อง ทั้งๆที่ ตอนที่อยู่ที่ londres หนูฟังเพลงไทยทุกวัน ไม่เคยเช้าหนังมาดู ภาษาไทยก็พูดเพราะ คนไทยเยอะ แต่ผลลัพ ความคล่องของภาษาอังกฤษกับดีกว่ามากๆ นี้คือสิ่งที่อยากถามอาจารย์ต้อนว่า มันเป้นไปได้ไหมค่ะ ว่าที่ ภาษาอังกฤษของหนู คล่องกว่าเพราะ ภาษาอังกฤษอยู่ในหัวเรามาตั้งแต่ อนุบาล เราคุ้นเคยกับมันเห็นมันมาตลอดชีวิตเลยทำให้เราพูดคล่องได้ไม่ ยาก แล้วประการที่สอง คือภาษาอังกฤษไม่ วุ่นวาย ซับซ้อนเท่าภาษาฝรั่งเศสน่ะ หนูเห็นอาจารย์ต้นเป็นผู้เชียวชาญ จึงอยากขอความเห็นหน่อยค่ะ


Post by จีจี้ :: Date 2010-12-23 06:39:44 IP : 80.13.40.45


[1]

Opinion No. 1 (3271140)

มีความเป็นไปได้ครับ

คนไทยเราอยู่ในบริบทที่ต้องเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษมาตลอดครับ เราก็เคยคุ้นเคยและไวกับภาษาอังกฤษมากกว่า แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับ เพราะมีคนไทยที่เรียนภาษาฝรั่งเศสได้ดี ทั้ง ๆ ที่ภาษาอังกฤษมี support มากกว่า (จริงไหมบลิว)

อีกเรื่องหนึ่งคือระบบการเรียบเรียงประโยคของอังกฤษนั้น มีกฎเกณฑ์น้อยกว่าภาษาฝรั่งเศส ทำให้กระบวนการคิดเร็วกว่า ไม่ต้องมาพะวงเรื่องการผันกริยา ไม่ต้อง accord ทั้งเพศและพจน์ยุ่งยากเหมือนฝรั่งเศส อีกทั้ง Style ในภาษาฝรั่งเศสก็มีลักษณะเฉพาะที่คนไทยไม่คุ้นเคย เพราะมันผูกพันกับระบบความคิด นอกจากนั้น การออกเสียง ก็มีแบบฉบับเฉพาะ ไม่ได้พูดกันง่าย ๆ ถึงแม้จะไม่มีเรื่องของ Accent มาเกี่ยวข้อง แต่ว่าฐานเสียงแต่ละตัวนั้น ต้องฝึกเป็นพิเศษ เมื่อทุกอย่างมารวมกัน มันก็เลยทำให้กระบวนการคิดเรียบเรียงประโยคเราล่าช้ากว่าภาษาอังกฤษครับ

อีกอย่างหนึ่ง การมีศัพท์มาก และไวยากรณ์แม่น ไม่ได้หมายความว่าเราจะพูดได้คล่องหรือพูดได้ดีนะครับ นักเรียนที่เก่งศัพท์และไวยากรณ์แต่ ตายสนิทตอนพูดมีมากไปครับ การพูดเป็น competence active ที่ต้องใช้เวลาฝึกครับ เพราะมีความฉับพลันและต้องอาศัยประสาท สมาธิ ความคิด และปัจจัยอื่น ๆ มากมายรวมกัน แล้วยิ่งเรามีภาษาแม่ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว มันจะขวางเรา แต่เรื่องแบบนี้มันฝึกกันได้ครับ อย่าเพิ่งท้อก็แล้วกัน keep speaking ครับ

By อาจารย์ต้น Date 2010-12-23 11:10:24 IP : 124.120.190.26


Opinion No. 2 (3271397)

ก่อนอื่นเลยตอบอาจารย์ต้นเลยครับว่า จริง หุหุ

แล้วก็เห็นด้วยว่าที่จะตายตอนพูด จริงๆครับ นี่บลิวก็จะซ่อมจุดนี้ให้เยอะเหมือนกันครับ

บลิวว่าพี่ จีจี้ โชคดีนะครับ ได้ฝึกภาษากับเจ้าของภาษา บลิวยังอยากไปอยู่ที่นู่นซักสองสามปีเลยครับ

อยากให้ภาษามันงอกงามคงต้องคอยใส่ปุ๋ยดูแลเยอะๆแหละครับ บลิวว่า เพราะภาษาฝรั่งเศส มีอะไรเยอะแยะมากมาย

แต่มันคือสิ่งที่ดึงดูดและน่าสนใจสำหรับบลิวครับ อาจเป็นเพราะที่บลิวเรียนภาษาฝรั่งเศสได้แต่ภาษาอังกฤษไม่ได้

คงเป็นเพราะบลิวไม่มีพวกเรื่องไวยากรณ์มาขั้นมั้งครับ มันเลยทำให้มันไม่ขัดแย้งกันในหัว

ปัจจุบันถึงคาบภาษาอังกฤษก็จะพยายามฟังครับ แต่โดนแบ่งกลุ่มให้นั่งหลังห้อง เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเข้าไปใหญ่

แต่พอถึงคาบภาษาฝรั่งเศส ยิ้มครับ นั่งหน้าตลอด ^^

บลิวว่าพี่จีจี้ต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีแน่นอนครับ : )

By บลิว Date 2010-12-24 22:04:44 IP : 182.53.166.234


Opinion No. 3 (3271405)
เอ้า ใครจะสอยบลิว สอยเลย หรือจะสอยตัวเองก่อนก็ไม่ว่ากัน
By อาจารย์ต้น Date 2010-12-24 22:39:25 IP : 124.120.193.141


Opinion No. 4 (3271416)

หาจุดสอยตัวเองไม่เจอครับ

คำว่า ซัก หรือเปล่า เอิ้กๆ สัก .... บางที สัก บางที ซัก เอิ้กๆ

เจอบ่อยๆแล้วหลงครับ แหะๆ

By บลิว Date 2010-12-24 23:46:11 IP : 118.173.11.236


Opinion No. 5 (3271423)
มันดกเต็มต้น ไม่รู้จะสอยยังไงดีนะครับ ให้บลิวสอยกินเองดีกว่านะ ถ้าคนอื่นสอยให้ เดี๋ยวจะถูกเสยกลับ 55555
By ไวศย Date 2010-12-25 00:39:20 IP : 58.11.97.3


Opinion No. 6 (3271432)
ไม่รู้สิค่ะ แต่สำหรับจีจี้ แล้ว จีจี้มอง ว่า ภาษาอังกฤษกับฝรั่งเศส มันคนละเรื่องนะคะ คนไม่เคยเรียนไม่เข้าใจหรอกว่า ภาษาฝรั่งเศส มันยากกว่า ภาษาอังกฤษยังไง ไหนจะเพศ ไหนจะพจน์ ไหนจะลด รูป ตัด สระที่ชนกันอีก วุ่นวายกันไปหมด คือ อย่างที่จีจี้บอกน่ะค่ะ ว่าจีจี้ใช้เวลานานกว่าจะพูดคล่อง ทั้งที่ภาษาอังกฤษ เดือนเดียวจีจี้ก็ ติดปีกแล้ว จีจี้เข้าใจที่ อาจารย์ต้นพูดนะคะ ว่า คนได้หลักการ เก่งๆ แต่ถึงเวลาปฎิบัติ กับทำไม่ได้ เพราะไม่เคยฝึก จีจี้เข้าใจค่ะ และนั้นคือสิ่งที่ จีจ้ยึดมั่น มาตลอด เพราะ จีจี้ เรียนภาษาไม่ว่าจะภาษาอังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส จีจี้คิดว่า จีจี้เรียนภาษา เพราะอยากพูดได้พูดเป็น แต่ไม่ได้เรียนเพื่อไปสอนใคร หรือทำสอบข้อคำคะแนน ใครๆก็พูดนะคะว่า จีจี้ ได้เปรียบคนอื่นตรงทักษะการพูดนี้แหละค่ะ เพราะเวลาพูด จีจี้ต้องคิดในใจแบบไม่อาย คิดซะว่า พูดผิดใครจะทำไม ไม่ใช่ภาษาเราซะหน่อย อีกอย่างถ้าเรามัวแต่กลัวมัวแต่อาย เมื่อไหร่เราจะพูดเป็นซักที พูดผิด พูดใหม่ได้ เรียนรู้กันไป ค่อยๆซึมซับกัน มีสำนวน ชาวอังกฤษบอกไว้ ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ซึ่งทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างตอนที่จีจี้ไปเรียนที่ฝรั่งเศสช่วงแรก ยอมรับเลยว่า อิจฉาคนเรียนภาษาอังกฤษมากมาย เพราะ ถ้าเทียบฝรั่งเศสแล้ว สำหรับจีจี้ภาษาอังกฤษถือว่าเป็นภาษาที่ง่ายมากๆแล้วค่ะ คนไทยบ่นหนักบ่นหนาว่าภาษาอังกฤษน่ะยาก มาเจอภาษาฝรั่งเศสแล้วจะหนาว จีจี้อยากบอกอาจารย์ต้นว่า จีจี้รู้สึกนะคะว่า ดูเหมือนว่า คนที่ไม่มีโอกาสไป ฝรั่งเศส ดูแล้ว ชีวิตนี้แทบจะไม่มีโอกาสพูดฝรั่งเศสคล่องเลยนะคะ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ จีจี้ยอมรับว่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน จีจี้เห็นมาเยอะแล้วนะคะ เด็กไทยที่ไม่เคยไป ตปท แต่พูดภาษาอังกฤษได้ดี สำเนียงดีใช่ได้เลย เพราะฝึกพูดกับเจ้าของภาษา และ ดูหนังบ่อยๆ ซึ่งจีจี้ยอมรับเลยค่ะว่า มันเวิค จริงวีธีดูหนังเนี่ย ทำให้เราได้รู้จักสไต การพูดของเจ้าของภาษาด้วย จีจี้เคยได้ทุนฟรีไปญี่ปุ่นของ AFS นะค่ะ ตอนนั้นคู่แข่งก็เยอะ ที่ถามๆมา แต่ละคนก็ไม่เคยไป ตปท กัน เลยแต่ภาษาอังกฤษ ของเค้านี้สุดยอดจริงๆ ขอยอมรับเลย แต่สำหรับภาษาฝรั่งเศส จีจี้ มองว่า ถ้าจะฝึกแบบภาษาอังกฤษ ถามว่า คุณจะไปเช่าหนังภาษาฝรั่งเศสร้านไหนมาดู จะซื้อหนังสือ ภาษาฝรั่งเศสที่ไหนมาฝึก จะเปิดทีวีช่องไหนเป็นภาษาฝรั่งเศส จะหาคนฝรั่งเศสในท่องถิ่นได้กี่คน ถ้าไม่ได้อยู่ใน กทม คือ จีจี้ว่า มันไม่เหมือนภาษาอังกฤษ ตรงที่ภาษาอังกฤษทุกอย่างเอื้ออำนวยไฟหมด หนังสือมีขายทุกทีทุกหนแห่ง แต่ฝรั่งเศสต้องไปตามแหล่งเท่านั้น ทีวีหาดูได้เยอะ ใครมี true vision ก็ไม่ต้องห่วงเลย หนัง ดีวีดี มีภาษาอังกฤษ ภาษาไทยให้เลือก ล้วนแล้ว สะดวกสบาย ต่อการฝึกฝน แต่ฝรั่งเศสมันไม่ใช่ อ่ะค่ะ อยากพูดภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องรอแต่คนอังกฤษ เราพูดได้กับทุกชาติ จีจี้ว่าการที่เราจะพูดคล่อง หรือไม่คล่องนั้นมันไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจำได้มากหรือน้อยหรอก ค่ะ ก็อย่างที่อาจารย์ต้นบอกไว้อีกอยู่ดี เพราะจีจี้ยังจำได้ขึ้นใจว่า ตอน ป 6 ครู รร ไทยเราชอบให้ ท่อง กริยา สามช่อง eat ate eaten drink drank drunk sing sang sung begin began begun หรือ cooky ถ้าพหูพจน์ ตัด y แล้วใส่ ies เข้าใจ อะไรแบบนี้ จีจี้จะบอกว่าชีวิตนี้จีจี้ไม่เคยท่องเลยนะค่ะ แต่พอจีจี้พูดบ่อยใช้บ่อยๆ มันก็ได้ของมันเองโดยอัติโนมัติเลยค่ะ ตอนก่อนไปฝรั่งเศส จีจี้จำได้ว่า ตอนนั้น จีจี้นั่งท่อง v imparfait รายตัวเลยนะค่ะ ตอนนั้นท่อง v faire หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ จีจี้ก็ลืมค่ะ เพราะจีจี้ไม่ได้ใช้เลย แต่พอไปอยู่ฝรั่งพูดทุกวันใช้ทุกวัน มันก็ได้ของมันเองโดยที่ จีจี้ไม่ต้องมานั่งท่องนั่งจำเลยค่ะ จีจี้เลยมองว่า เนี่ยแหละค่ะเหตุผลว่าถ้าคุณไม่มีโอกาส ไปฝรั่งเศส ชีวิตนี้คุณก็คงพูดไม่คล่องสักที เพราะคุณไม่มีโอปกาสได้พูดพูด ต่อให้คุณอัจฉริยะ จำ v ได้ทุกตัว ทุก กาลเวลา คุณก็ลืมอยู่ดีเพราะ คุณไม่ได้ใช้ ยิ่งเวลา เจอ พวก cod coi แล้วนะค่ะ สุดยอด บางทีลดรูป บางที accord อีก ไหนจะไปใน temp ยากๆ เกิดเป็นคำถาม เป็นปฏิเสธ เวลาเขียนยังยากเลย แล้ว พูดจะขนาดไหน ในสมองจีจี้ มันต้องมี ตารางเล็กๆตลอดเวลาน่ะค่ะ ว่า อะไรมาก่อนมาหลัง โดยเพราะกับเรื่อง coi cod เนี่ยตัวดีหนัก บ่อยครั้งที่ จีจี้ รู้ว่าจะพูดว่าอะไร แต่บางทีวัน reflechir ไม่ทันเลยค่ะ แล้วที่จีจี้ถามไปเมื่อครั้งที่แล้วน่ะค่ะจะ ถามอาจารย์ต้นอีกว่า มันจะเป็นไปได้ไหมว่า ว่า เพราะภาษาอังกฤษอยู่กับเรามานาน จีจี้ไปอยู่ London เดือนเดียวพูดไทยคำอังกฤษคำ แต่ไม่ได้ ดัดจริตหรอกค่ะ แต่มันเป็นของมันไปเอง เพราะมันนึกคำภาษาไทยไม่ออกจริงๆ ตอนนั้นจะพูด ผิวปากแล้ว จีจี้นึกไม่ออกเลยพูดเป่าปากออกมาเลย อีกอย่างตอนกลับเมืองไทยช่วงแรกๆ นะค่ะ สมองเป็นภาษาอังกฤาอยู่เลค่ะ ตอนผ่านตอมอ ขาเข้าที่ดอนเมือง ยังมีไป บอกเค้า Thank u have a nice day จะขอรถเข็นเจ้าหน้าที่ก็ดันไปขอเป็นภาษาอังกฤษอีก ตอนมาถึงบ้าน พ่อเรียก ก็ดันตอบ Yes เลยค่ะ ทั้งๆที่ อยู่ที่ ลอนดอนแค่ สามเดือนนะคะ แต่ไปอยู่ฝรั่ง้ศสมาสอง ปี ยังไม่ได้ขนาดนั้นเลย ตอนนั้นเวลาพูดภาษาไทย จีจี้พูดภาษาไทยจริงแต่พูดภาษาไทยใน structure อังกฤษ น่ะ อย่าง I’ll go to school in 5 minutes จีจี้ก็แปลประโยคนี้แล้วพูดเป็นไทยที่ว่า จะไปโรงเรียนในห้านาที ทั้งๆที่เราพูดว่าจะไปอีกห้านาที คือจีจี้รู้สึกว่า ถึงจีจี้จะไปอยู่ London เพียงสามเดือนแต่ด้วยความที่ภาษาอังกฤษอยู่กับเรามานานจึงทำให้ จีจี้เป็นแบบนั้น มันเหมือนกับว่า ภาษาไทยมันอยู่แกนกลางสมอง ภาษาอังกฤษ อยู่ในสมอง แต่ตอนที่ จีจี้อยู่ที่ฝรั่งเศส ถึงจะพูดทุกวันก็จริง แต่มันเหมือนกันว่า ภาษาฝรั่ง ที่เราพูดคล่องในตอนนั้นมันไม่ได้ ออกมาจากสมองแต่มันแต่ วนๆ อยู่รอบสมองเราเท่านั้นเองเพราะเราใช้ทุกวัน แต่ไม่เหมือนภาษาอังกฤษที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็กเลยรู้สึกว่า มันได้ฝังลงไปในสมองเราแล้ว จีจี้ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษนานขนาด บอกตาม ตรงว่าไม่เคยลืมเลยนะ ค่ะ จีจี้ไปอยู่ฝรั่งเศส สอง ปีก็จริง แต่ก็ ไม่เคยพูด ไทยคำ ฝรั่งศสคำเลยค่ะ จีจี้ก็ไม่เข้าใจนะค่ะว่า ทำไมกับอังกฤษเป็น แต่ ฝรั่งเศสไม่เป็น แต่พอ จีจี้พุดภาษาอังกฤษอีกทีตานี้แหละค่ะ คำที่มันคล้ายๆ กันจีจี้จะออกเสียงแบฝรั่งเศสทันที อย่าง คำว่า instrument ,college และ gouvernement อะไรทำนองนี้แหละ ค่ะ ที่เล่ามานี้คืออยากแชร์ประสบการณ์ และอยากถามอาจารย์ต้นด้วยว่า ที่จีจี้เล่ามานั้น เกี่ยวกับ ถ้าไม่มีโอกาสไปฝรั่งเศสก็แทบไม่มีโอกาสจะพูดคล่องได้เลย มันจริงไหม ค่ะ และที่บอกว่า
By GGee Date 2010-12-25 05:41:17 IP : 80.13.40.45


Opinion No. 7 (3271526)
ขอเม้นก่อนอ่านนะครับ ยาวจัง.... ^^
By บลิว Date 2010-12-25 18:37:20 IP : 118.173.12.178


Opinion No. 8 (3271528)

เหมือนจะมีต่อ.... แต่หน้าโพสรองรับไม่หมดหรือเปล่าครับ

บลิวว่าที่พี่จีจี้พูดมันถูกเยอะเลยครับ แล้วก็ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษที่มีสื่อพร้อมครับ

ปัจจุบันภาษาจีน ครูจีนก็มีอยู่เยอะ เรื่องการไม่ได้ใช้ภาษาฝรั่งเศสนี่กล้าบอกเลยครับว่าเจอกับตัวจริงๆ

หาครูเจ้าของภาษาไม่ได้ ต้องดิ้นรนฟังเพลงเอาเอง โหลดหนังตามเว็บไซต์ หนังสือถึงจะมีแหล่งน้อย

แต่ก็ดิ้นรนหามาอ่านครับ บลิวว่าของพวกนี้อยู่ที่ความพยายามจริงๆครับ

ฉ ไม่มีทางมาก่อน ง ได้หรอกครับ ต้อง โง่ ก่อน แล้วค่อย ฉลาด ^^

By บลิว Date 2010-12-25 18:47:07 IP : 118.173.12.178


Opinion No. 9 (3271557)
มาคั่น ไม่ใช่มาขั้น มั้ง
By อาจารย์ต้น Date 2010-12-25 21:42:24 IP : 124.122.80.243


Opinion No. 10 (3271558)
อาจารย์ต้นอ่านแล้วตาลาย ฮา ที่จีจี้ว่ามาก็ถูกนะครับ เมืองไทยเรามีอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนภาษาฝรั่งเศสค่อนข้างจำกัด ยิ่งในต่างจังหวัดยิ่งลำบากมากเลย อาจารย์ต้นเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นรุ่นสุดท้ายของโรงเรียนประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ขนาดเร่งเรียนแทบตาย ยังเรียนไม่ถึง plus-que-parfait กับ subjonctif เลย ต้องมาหาอ่านศึกษาเอาเอง พอเข้ามาเรียนพิเศษในกรุงเทพ ก็เรียนได้แค่ครั้งสองครั้งเพราะตามเขาไม่ทัน สุดท้ายอยู่กับบ้านอ่านเองดีกว่า กว่าจะทำความเข้าใจได้ทีละเรื่อง ยากเย็นเหลือเกิน ไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ถามหรือค้นข้อมูล ดูอย่างทุกวันนี้สิครับ อยากรู้อะไรเข้าเน็ตแวบเดียวก็ได้ข้อมูลแล้ว (แล้วอย่างนี้เด็กรุ่นใหม่จะฉลาดน้อยกว่าเด็กรุ่นเก่าได้อย่างไร) อาจารย์ว่าจีจี้มีความพยายามดีแล้วนะครับ แต่อย่าลืมว่าการเรียนนี้ ความตั้งใจอย่างเดียวไม่พอ แต่เราต้องมีวิธีการเรียนที่ถูกต้องด้วย ลองสำรวจตัวเองดี ๆ ครับว่า เวลาเราพูดภาษาฝรั่งเศสนั้น อะไรที่เป็นอุปสรรคสำหรับเรา จากประสบการณ์ อุปสรรคสำคัญในการพูดก็คือ เราไม่ได้คิดเป็นภาษาฝรั่งเศส แต่คิดเป็นภาษาอื่น ๆ ทำให้กระบวนการพูดของเราช้าลงเนื่องจากต้องทำการแปลในหัวก่อนที่จะพูดออกมา หรือว่าเป็นเรื่องของการออกเสียง ที่ทำให้เราช้าและขาดความต่อเนื่องในการแสดงความคิด หรือเพราะเราเจอคนฝรั่งเศสที่ไม่เห็นใจเรา พูดเร็วกับเราจนเราเบลอแล้วไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาเนื่องจากต่อความคิดไม่ติด ลองวิเคราะห์ดูนะครับ เจอเหตุแล้วเราค่อยมาหาทางแก้กันอีกที ส่วนตอนนี้ ไปคุยกับซานตาคลอสต่อดีกว่า
By อาจารย์ต้น Date 2010-12-25 21:53:13 IP : 124.122.80.243


Opinion No. 11 (3271580)
โชคดีตรงที่ แยกประสาทออกได้ ไม่เคยตีกันระหว่างภาษา แต่โชคไม่ดีที่ไม่ได้เรื่องสักภาษา 5555
By ไวศย Date 2010-12-26 01:47:48 IP : 58.8.100.27


Opinion No. 12 (3271597)

อ้าว

ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน

By อาจารย์ต้น Date 2010-12-26 08:48:54 IP : 124.122.80.243


Opinion No. 13 (3271716)
อาจารย์ต้น พอจะทราบไหมคะว่า ทำไมจีจี้ถึงไม่พูดไทยคำฝรั่งเศสทำในเมื่อไปอยู่มาตั้งนาน แต่สำหรับภาษาอังกฤษว่าไปอยู่แปบเดียวยังเป็นเลย จีจี้สงสัยมากๆเลยค่ะ
By จีจี้ Date 2010-12-27 04:52:29 IP : 80.13.40.45


Opinion No. 14 (3271743)

เอาตรง ๆ เลยนะ การพูดของคนที่มีภาษาแม่แข็งแรงแล้ว และมีภาษาอื่นมาแทรกขณะพูด เป็นความตั้งใจของคนพูดเองที่ต้องการให้เป็นแบบนั้น ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติครับ และถือเป็นการพูดที่ไม่น่าปฏิบัติเพราะทำให้ระบบการพูดภาษาของเราไม่เป็นระบบระเบียบ ถ้าจะพูดอังกฤษก็อังกฤษให้ตลอด ไทยก็ไทยทั้งหมด ฝรั่งเศสก็ฝรั่งเศสให้หมดครับ อย่าไทยคำอังกฤษคำหรือฝรั่งเศสคำ เพราะทำให้ระบบภาษาเสีย เช่น พอเราพูดว่า เดี๋ยวต้อง meeting สักหน่อย meeting ไม่ใช่กริยานะครับ แต่เราเอามาใช้เป็นกริยาในภาษาไทยเสียอย่างนั้น พอจะเอาเข้ารูปภาษาอังกฤษล้วน ก็จะสับสน อีกอย่าง อาจารย์ต้นเห็นว่า คนที่พูดภาษาเก่งจริง จะต้องพูดภาษาแม่ของตัวเองได้อย่างสละสลวยโดยไม่ต้องมีภาษาอื่นเข้ามาแทรกโดยไม่จำเป็นครับ อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า เด็กไทยที่ไปอยู่เมืองนอกสองสามปี แล้วกลับมาพูดภาษาไทยไม่ชัด ถ้าไม่ใช่เพราะความบกพร่องทางระบบประสาท ก็เป็นเพราะความตั้งใจหลงผิดที่คิดว่ามันเก๋เท่ห์เท่านั้น ในความเป็นจริง มันไม่ส่งผลดีต่อคนพูด และสร้างความรำคาญให้คนฟังครับ ถ้าจะเก่งภาษาต่างประเทศจริง จะต้องพูดให้เหมือนกับทางเจ้าของภาษา เอาแบบถ้าพูดไม่เห็นหน้า เจ้าของภาษานึกไม่ถึงว่าคุยกับคนไทยอยู่ อย่างนั้นจะดีกว่าครับ

อีกกรณีหนึ่งของการพูดภาษาหลายภาษาปนกันคือคนที่ไม่มีภาษาแม่ที่แท้จริง เกิดขึ้นได้กับเด็กที่เดินทางเปลี่ยนสถานที่อยู่บ่อย ๆ จนไม่เก่งภาษาใดภาษาหนึ่งอย่างลึกซึ้ง แต่พูดได้หลายภาษาในขอบเขตที่จำกัดมากน้อยต่างกันไป เด็กเหล่านี้จะมีปัญหาในการพูดเมื่อต้องแสดงความคิดเห็นที่มีความซับซ้อน เพราะไม่มีภาษาไหนของตนเองที่ลึกซึ้งพอที่จะบอกได้ว่าตนเองคิดอะไรอยู่

สรุปก็คือ อาจารย์ต้นไม่สนับสนุนการฝึกภาษาด้วยการพูดไทยคำฝรั่งเศสคำครับ อย่าติดกระดุมผิดเม็ดตั้งแต่แรกเลย เพราะมันจะพากันผิดไปทั้งตับ

By อาจารย์ต้น Date 2010-12-27 09:52:42 IP : 118.175.66.165


Opinion No. 15 (3271854)

อาจารย์พูดตรงจุดมากครับ เป็นสิ่งที่ผมอยากพูดมาก ประเด็นนี่ชัดเจนมาก อันนี้ j"ai eu un boeuf sur la langue อย่างแท้จริง  แต่ตอนนี้ก็พูดหน่อยแล้วกัน  ส่วนตัวไม่ชอบพูดภาษาต่างๆ ปนกันครับ ไม่ชินรู้สึกแปลกๆ และไม่สนับสนุนด้วย เพราะเหมือนภาษาเราถูกปล้น ถูกภาษาอื่นกลืน ซ้ำร้ายบางทีก็หยิบมาพูดโดยไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ออกเสียงไปคนละเรื่อง เวลาพูดภาษาต่างประเทศทั้งหมดเข้าจริงๆ กลับพูดไม่ได้ ไม่ได้เอาคำยืมที่คิดว่าโก้เก๋ที่เอามาปนคำไทย มาใช้ในการพูดภาษานั้นๆ สิ่งที่แย่ที่สุดคือ ออกเสียงไปคนละทางคนละเรื่อง เห็นแล้วขัดหูขัดตาตลอด ขอยกตัวอย่างญาติที่อยู่ฝรั่งเศส และใช้งานได้ดีทุกด้าน มาเมืองไทยก็แค่ปีละครั้ง อยู่มานานมากในสังคมคนฝรั่งเศส ก็เคยคุยกัน ไม่เห็นว่าเขาจะเอาคำฝรั่งต่างๆ มาปน เวลาพูดไทยเลย ทั้งๆ ที่อยู่ที่นั่นไม่ได้พูดไทยกับใคร เพราะเป็นสะใภ้ชาวฝรั่งเศส แต่เขาก็บอกนะ ไม่ลืมภาษาไทย แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้เห็นนานๆ อาหารการกิน ผักผลไม้ เคยไปตลาด บางทีก็ถามแม่ค้าเลย ว่าเขาเรียกอะไร จำไม่ได้ ไม่ได้ดัดจริตทำลืม แต่จำไม่ได้จริงๆ  ทุกวันนี้แม้จะพูดได้ภาษาละหน่อย แต่ก็ดีใจและภูมิใจที่สื่อสารได้ ไม่เอามันมาปนกัน ไม่อยากเท่ห์แบบผิด เรียนภาษาไหน ก็พยายามซึมซับวัฒนธรรมของภาษานั้นๆ  ไม่อยากเท่ห์แบบผิดๆ ครับ

By ไวศย Date 2010-12-27 20:55:49 IP : 58.8.197.145


Opinion No. 16 (3271861)
อาจารย์และพี่ ๆ บอกตรง ๆ แบบนี้ จีจี้อย่าน้อยใจนะครับ เดี๋ยวจะเลิกเรียนฝรั่งเศสไปเสีย ฮา เอาเป็นว่า อนุญาตให้เท่ห์ได้บางเวลา พูดไทยปนฝรั่งเศสตอนอยากโชว์นิดๆ หน่อย ๆ ตามประสาวัยรุ่น อาจารย์ต้นก็มีบ้างบางเวลา ก็แค่อยากโชว์เท่านั้น ไม่ได้เอาเป็นหลักในการเรียนภาษาฝรั่งเศส แต่บอกตรง ๆ ว่ามันประหลาดครับ พูดไทยคำอังกฤษคำยังฟังรื่นหูกว่า แต่ไทยคำฝรั่งเศสคำฟังแล้วเหมือนภาษาต่างดาวยังไงไม่รู้ ระหว่าง ฉันว้อนท์ (want) กับฉันเหวอะ(veux) นี่ อันหลังฟังไม่ได้เล้ยย...ฮา
By อาจารย์ต้น Date 2010-12-27 21:39:36 IP : 124.120.186.201


Opinion No. 17 (3271874)
จีจี้ว่าอาจารย์และคนอื่นๆเข้าใจผิดไปใหญ่แล้วค่ะ คือที่จีจี้ถามจีจ้แค่อยากจะทราบเหตุผลเฉยๆไม่ได้มีความอยากจะพูดปนกันเลยแต่อย่างใด จีจี้คิดเสมอว่าเรามีภาษาเป็นของเราเอง น่าจะภาคภูมิใจมากกว่า ไม่ใช้ไปเข้าคำในภาษาอื่นมาใช้ในเมื่อเราก็มีคำในภาษาของเราอยู่แล้ว จีจี้ได้เล่าไว้ในข้อความที่อาจารย์ต้นบอกว่าอ่านแล้วตาลายไงคะว่า ตอนที่จีจี้พูดไทยคำอังกฤษคำไม่ได้เกิดจากความตั้งใจแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆที่จีจี้ไปอยู่ที่อังกฤษแค่สามเดือนอย่างที่บอกว่าตอนนั้นจีจี้จะพูดคำว่าผิวปากแต่จีจี้นึกไม่ออกว่าเค้าเรียกว่าอะไรก็เลยใช้คำว่าเป่าปากแทน ตอนนั้นจะพูดคำว่าสนับสนุนมันนึกไม่ออกค่ะก็เลยใช้คำว่าsupportออกมาแทน อย่างที่บอกอ่ะค่ะกลับมาจากอังกฤษช่วงแรกๆผ่านด่าน ตม ที่ดอนเมืองจีจี้เผลอไปพูดพูกกับจนทเป็นภาษาอังกฤษหน้าตาเฉยเลย พอเค้าตรวจนสเดินทางให้เสร็จก้ดันไปพูดเฉยๆเลยว่าThank u have a nice day จีจี้ก็งงนะค่ะว่าจะพูดทำไมวะในเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว จีจี้ไม่ได้บังคับให้ปากพูดนะค่ะ แต่มันไปของมันเองโดยที่มารู้ตัวอีกทีตอนเราพุดจบแล้วน่ะค่ะ อย่างกลับมาที่มหาลัยเพื่อนเรียกปกติจีจี้ตอบว่า ว่าไงแก แต่ดันไปตอบ yes หน้าตาเฉยเลย ที่จีจี้ถามอาจารย์ต้นว่าทำไมจีจี้ไม่พูดไทยคำฝรั่งเศสคำก็เพราะว่า อย่างจีจี้ไปอยู่ลอนดอนแค่สามเดือนภาษาอังกฤษยังมีอิทิพลกับสมองได้ขนาดนี้ แล้วไปอยู่ฝรั่งเศสสองปีทำไมไม่เห็นเป็นบบภาษาอังกฤษเลย จีจี้่เพียงแค่ว่ามันแปลกน่ะค่ะว่าไอ้ทีไปอยู่แปบเดียวกับเป็นแต่พอไปนานๆไม่เห็นเป็นเลย จีจี้แค่อยากทราบเห็นผลน่ะค่ะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นทั้งๆที่ไปอยู่นานๆมันน่าจะเปนหนักกว่า แต่ตอนไปแปบเดียวกับแสดงผลได้เกินคาด
By จีจี้ Date 2010-12-27 22:02:48 IP : 80.13.40.45


Opinion No. 18 (3271879)
ก็อย่างที่อาจารย์บอกนะครับว่า ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษ ทั้งในแง่ของไวยากรณ์และการออกเสียง พื้นฐานของคนไทยนั้นส่วนใหญ่ภาษาอังกฤษเราจะเคยชินกับการพูดและออกเสียงมากกว่า เราก็เลยเอาไปปนกับภาษาอื่น ๆ ได้ง่าย สังเกตจากเพลงสิครับ เรายังใส่ภาษาอังกฤษเข้าไปบ่อย ๆ แต่ภาษาฝรั่งเศสนั้นยากกว่า เราคุ้นเคยน้อยกว่า ระบบการผูกภาษาเป็นประโยคนั้นยากกว่า ซึ่งนั้นก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภาษาฝรั่งเศสที่อาจจะทำให้เราต้องใช้เวลามากกว่าในการสร้างความเป็นอัตโนมัติให้กับภาษาฝรั่งเศส ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ต้องคิดในหลายมิติก่อนพูด สังเกตไหมครับเวลาเราจะใช้ pronom relatif lequel, laquelle, lesquels, lesquelles ซึ่งอยู่กลางประโยค แล้วเราต้องเปลี่ยนเป็น auquel, à laquelle, auxquels, auxquelles ทั้ง ๆ ที่กริยายังไม่ปรากฎในลำดับการพูดเลย แต่ทำไมเราเปลี่ยน a+le เป็น au แล้ว นั่นแสดงว่าเราต้องคิดครอบคลุมไปถึงท้ายประโยคทั้ง ๆ ที่พูดแค่ต้นประโยค และรู้แล้วว่าจะใช้กริยาที่ตามด้วย à ที่ท้ายประโยค (ที่จริง ภาษาอังกฤษก็มีแต่ว่าซับซ้อนน้อยกว่า) ก็เลยอาจทำให้เราใช้เวลามากกว่าในการเรียนและสร้างความเป็นอัตโนมัติให้กับตัวเอง อีกทั้งระบบฐานเสียงในปากที่ใช้ออกเสียงภาษาฝรั่งเศสก็มีความซับซ้อนมากกว่า ทำให้ออกเสียงได้ช้ากว่า การเรียนภาษานั้น บางครั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านเวลาอย่างเดียวหรอกครับ เพื่อนอาจารย์หลายคนไปอยู่ตั้งหลายสิบปี ยังพูดไม่ได้เรื่องเลย คงจะต้องกลับมาตั้งคำถามด้วยนะครับว่า ระบบการเรียนเรามีประสิทธิภาพพอที่จะสร้างความเป็นอัตโนมัติหรือเปล่า อ้อ วันหลังถามคำถามอธิบายให้ตรงประเด็นนะครับ จะได้ไม่พาทั้งอาจารย์และผองเพื่อนตีความผิดเรื่องไป เดี๋ยวจะท้อกับการเรียนเสียเปล่า เว็บนี้เด็กก็มากผู้ใหญ่ก็เยอะ แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ และมีแต่คำว่า "ให้" ตัวใหญ่ ๆ อย่างเดียวล้วน ๆ จ้ะ
By อาจารย์ต้น Date 2010-12-27 22:22:34 IP : 124.120.186.201


Opinion No. 19 (3272650)
อ่านกระทู้นี้ แล้ว เหนื่อยครับ ยาวๆทั้งนั้นเลย เอิ้กๆ
By บลิว Date 2011-01-03 23:38:25 IP : 118.173.6.120


Opinion No. 20 (3272652)
นั่นสิ วันหลังอาจารย์จะเขียนสั้น ๆ แล้ว เขียนเองยังอ่านไม่ไหวเลย ฮา
By อาจารย์ต้น Date 2011-01-03 23:47:01 IP : 124.120.183.3


Opinion No. 21 (3273148)
ขอบคุณมากนะคะ
By จีจี้ Date 2011-01-05 01:31:46 IP : 80.13.40.45


Opinion No. 22 (3273149)

ปีใหม่ พี่ก็ขออวยพรให้น้องจีจี้ มีความสุข พูดภาษาให้ได้ดังใจนึกแล้วกันครับ และเชื่อว่าน้องคงพูดฝรั่งเศสได้ดีในไม่ช้าเหมือนภาษาอังกฤษที่น่าจะดีมากแล้ว ถ้าไม่มีเพื่อนคุยฝรั่งเศสก็มาฝึก พูดคุยในเว็บนี้กับอาจารย์แล้วกัน หรือกับเพื่อนๆ ที่ เก่งๆ ส่วนพี่จะคอยนั่งยิ้มให้กำลังใจอยู่ตรงนี้

ด้วยความปรารถนาดีครับ

By ไวศย Date 2011-01-05 02:36:42 IP : 58.8.79.166


Opinion No. 23 (3273417)
วันนี้อยู่ที่สำนักงาน คุยมากไม่ได้ เดี๋ยวบริษัทไม่จ่ายค่าตัว ฮา
By อาจารย์ต้น Date 2011-01-05 10:37:06 IP : 118.175.66.165


Opinion No. 24 (3274040)
อยู่คู่เว็บนี้ไปจนแก่จนเฒ่า ฮ่าๆ
By บลิว Date 2011-01-05 16:53:14 IP : 182.53.222.72


Opinion No. 25 (3274049)

Merci beaucoup ka

tout mes voeux de bonheur na ka

Happy ,wealthy and Happy New Year

By Gegee Date 2011-01-05 17:38:07 IP : 10.0.158.5


Opinion No. 26 (3274102)
รีบมารับพรจากเด็ก ๆ ก่อนเลย โดยเฉพาะเรื่องรวย ชอบ ๆๆๆๆ แต่ว่าเมื่อปีที่แล้วก็มีคนอวยพรให้ได้เงินได้ทองเยอะๆ ก็ไม่เห็นได้เท่าไหร่ ปีนี้ไม่ต้องอวยพร แต่ส่งเช็คมาเลยก็ได้ เข้าได้ทุกธนาคาร
By อาจารย์ต้น Date 2011-01-05 21:14:13 IP : 124.120.194.26


Opinion No. 27 (3275002)

กระดาษเช็ดปากหมดแล้วหรอคะ?? (อาจารย์ต้นใช้แบงค์เช็ดปากนิ จำได้ป่าวโม้อะไรไว้ ฮา ฮา ฮา)

By eing2 Date 2011-01-08 14:54:33 IP : 125.24.166.187


Opinion No. 28 (3275045)
โอ้ย เดี๋ยวนี้ไม่ใช้แบงค์แล้ว ใช้สมุดบัญชีธนาคารทั้งเล่มเลย จ๊วบ...
By อาจารย์ต้น Date 2011-01-08 21:54:01 IP : 124.120.195.150



[1]


Opinion
Opinion *
By  *
E-Mail 
Don't Display E-mail



Copyright © 2010 All Rights Reserved.