ReadyPlanet.com


ฝึกเขียนฝรั่งเศสให้เป็นภาษายังไงดีครับ


อาจารย์ต้นครับผมมีปัญหาในการเขียนภาษาฝรั่งเศสมาเสมอเลยครับ อาจารย์ในห้องก็ตำหนิตลอดเลย

วิธีผมกำลังฝึกทุกวันนี้คือปริ้นข่าวจากlepetitjournalและคัดลอกมันแล้วเขียนๆๆๆอ่านแล้วพอเข้าใจแต่ทำไมสิ่งที่ผมเขียนไม่ถูกต้อง จะประสมคำก็ไม่รู้ว่าควรเชื่อมด้วยdeหรือaครับ



Post by bruillon (bishojoo-at-gmail-dot-com) :: Date 2009-04-16 20:55:26 IP : 117.47.166.133


[1]

Opinion No. 1 (2980876)

อันดับแรกขอให้เข้าใจก่อนนะครับว่า การที่อาจารย์ตำหนิ ไม่ได้มีเป้าหมายจะทำให้เราท้อถอย แต่กำลังบอกเราว่าเราต้องแก้ไขอะไร ซึ่ง bruillon ก็ตีความความต้องการของอาจารย์ได้ดี คือเพิ่มเวลาในการฝึกฝนและหาความรู้ เป็นสัญญาณที่ดีมากครับ

การเขียนภาษาฝรั่งเศสต้องเข้าใจโครงสร้างและธรรมชาติของภาษาให้ดีก่อน นักศึกษาไทยหลายคนจะเขียนภาษาไทยก่อนแล้วเขียนภาษาฝรั่งเศส นั่นเป็นแนวทางที่ผิด เพราะวิชาเขียน ไม่ใช่วิชาแปล แล้วภาษาไทยเราสูงกว่าฝรั่งเศสหลายเท่า เราจึงแปลมาเป็นภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เมื่อเราเขียนภาษาไทยก่อน แล้วธรรมชาติการพูดก็ต่างกัน อย่างเช่น นักศึกษาชอบพูดว่า Je nage traverser le canal. ฉันว่ายน้ำข้ามคลอง ซึ่งถอดโครงสร้างภาษาไทยออกมาเป๊ะ ๆ คนฝรั่งฟังแล้วเข้าใจแบบงง ๆ เพราะเขาพูดว่า Je traverse le canal à la nage. เห็นความแตกต่างไหมครับ นักเรียนไทยหลายคนคิดฝรั่งเศสเป็นไทย เวลาพูดเวลาเขียนมันก็เลยไม่เป็นฝรั่งเศสครับ

อ. ต้นแนะนำเสมอว่าให้ใช้ทรัพยากรภาษาฝรั่งเศสที่เรามีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เขียนประโยค simple แล้วค่อย ๆ ฝึกใช้คำเชื่อมต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเข้าใจวิธีการใช้ที่ถูกต้องของคำเหล่านี้ครับ ส่วนเรื่องการเชื่อม de à นั้น ต้องอาศัยประสบการณ์จากการใช้ภาษาพอสมควรจึงจะใช้ได้ดีครับ การป้องการผิดพลาดก็คือลองหาในดิกชันนารี่หรืออินเตอร์เน็ตครับ ว่าเขาเขียนกันแบบนั้นหรือเปล่า

การอ่านข่าวก็จะได้ศัพท์แสงและสำนวนแบบหนึ่ง ซึ่งบางครั้งเอาใช้พูดหรือเขียนบทความแบบอื่นไม่ได้นะครับ bruillon คงรู้ แต่ก็มีประโยชน์ตรงที่เราจะได้ศัพท์ใหม่ ๆ หลากหลายวงการ ฝึกอ่านไว้ไม่เสียหลายครับ มีหนังสือเล่มหนึ่ง อ. ต้นเคยอ่านเมื่อตอนเป็นนักศึกษาเพราะมีปัญหาการเขียนเหมือนกัน อาจารย์บอกว่า อ. ต้น คิดเป็นอังกฤษเสียมากกว่าไทยด้วยซ้ำ หนังสือเล่มที่อ่านชื่อว่า Comment raisonner à la française? คิดอย่างไรให้เป็นฝรั่งเศส หนังสือจะสอนวิธีการเขียนแบบคนฝรั่งเศส มีตัวอย่างคำเชื่อมและการใช้ แต่หนังสือคงเก่ามากแล้ว ไม่รู้จะหาได้หรือเปล่า แต่ที่ ม. ศิลปากร สนามจันทร์ มีแน่ ๆ ครับ ที่จริงใน methode การสอนภาษาต่าง ๆ ก็มีรูปประโยคสวย ๆ ให้จำ วันหลังเจอประโยคดี ๆ ก็คัดเก็บไว้สิครับ จะได้มีต้นแบบดี ๆ ในการเขียน

By อ. ต้น Date 2009-04-16 21:34:00 IP : 124.120.194.78


Opinion No. 2 (2980931)

ขอบคุณครับ เป็นคำแนะนำที่ดีและรวดเร็วมากครับ ผมเพิ่งตั้งคำถามลงไปเองดีจังเลยครับ

By bruillon Date 2009-04-16 23:24:36 IP : 117.47.0.35


Opinion No. 3 (2981557)
โอ้ แหม อ. ต้น ปืนไวอยู่แล้ว ไม่ตอบแล้วนอนไม่หลับ ฝึกเขียนสรุปบทความเยอะ ๆ นะครับ จะได้เก่ง อ่านอะไรมา ก็สรุปเก็บไว้อีกรอบ แล้วเราจะเริ่มชินกับสไตล์คนฝรั่งเศสเอง
By อ. ต้น Date 2009-04-17 20:27:20 IP : 124.120.195.189


Opinion No. 4 (3035786)

สวัสดีค่ะ อาจารย์

หนูอยากทราบว่าเขียนภาษาฝรั่งเศสใช้ทฤษฎีอะไรในการสนับสนุนค่ะ  ตอนนี้หนูเรียนเกี่ยวกับ  เรื่องการวิจัยค่ะ

                                                                     ขอบคุณมากค่ะ

By เด็ก มจษ Date 2009-07-06 20:42:25 IP : 58.8.88.127


Opinion No. 5 (3036190)

อ่า เรื่องการเขียนวิจัยจะต้องให้ผู้เชียวชาญตอบ เดี๋ยวถ้าเจอจะถามให้

แต่ถ้าเป็นงานเขียนเรียงความ ส่วนใหญ่ก็จะเขียนในแนว Thèse-antithèse-synthèse พูดง่าย ๆ ก็คือ ตั้งสมมุติฐาน แล้วหาข้อโต้แย้ง ก่อนที่จะสรุปครับ

By อาจารย์ต้น Date 2009-07-07 15:54:27 IP : 124.120.185.231


Opinion No. 6 (3078956)

คือตอนนี้เรียน วิชาเขียนอยู่นะครับ เรียนกัน 5 คน ในชั้นเรียน แต่เพื่อจรรยาบรรณ ต้องปกปิดอัตลักษณ์ของเพื่อนในชั้นเรียนไว้นะครับ คือ ในชั้น 2 คนเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ 2 คนเรียนในประเทศ  (ไม่บกว่าประเทศอะไร ที่ไหน ปีไหน) และตัวผม เรียนจบแล้ว

พอมาวันแรก ก็จะเป็นเรื่อง resume กับ compte rendu

เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินเรื่อง compte rendu เอาตามความเข้าใจของผมนะครับ ตัวนี้ น่าจะเป็นการสรุปความ ส่วนresume คือย่อความ

วันที่สองก็เรียน เกี่ยวกับการเชื่อมลำดับเหตุการณ์ การให้เหตุผล

ครั้งที่สาม ที่สี่ ก็เป็นเรื่อง การโต้เถียง

คือ ทฤษฎีการเขียน ที่มันต่างจากภาษาอังกฤษแน่ๆ น่าจะเกี่ยวกับ syntaxe

ผมเข้าใจว่า บางอย่างนั้น ฐานคิดของคนเราต่างกัน ที่ทำให้รูปประโยค การวางตำแหน่งของคำไม่เหมือนกัน

ผมเข้าใจว่า ทฤษฎีตัวบทของฝรั่งเศส นำหน้า อังกฤษ และสหรัฐ คือ เท่าที่เรียนมา อะไรที่เป็นทฤษฎีฝรังเศสก็จะกลายเป็น fashion ในมหาวิทยาลัยดังๆ ในสหรัฐ โดยเฉพาะในภาควิชาภาษาอังกฤษ แปลกไหมครับ

 

 

 

By เพลง (narinnn-at-hotmail-dot-com)Date 2009-09-02 14:18:03 IP : 202.28.182.12


Opinion No. 7 (3079442)
เอ่อ อัตลักษณ์ แปลว่าอะไร ฮ่า ๆ ล้อเล่น (เหมือนกับอัปลักษณ์ไหม) ใช้ศัพท์หรูเชียวครับ เท่าที่อาจารย์ต้นเข้าใจ ซึ่งอาจไม่ใช่ก็ได้นะครับ เพราะไม่เก่งเรื่องสอนการเขียน Resume นี่จะเป็นการย่อเอาแต่ใจความสำคัญออกมาจากบทความหรือหนังสือที่เราอ่าน บางทีจะมีการบังคับว่าต้องไม่เกินกี่คำ ส่วน Compte rendu จะเป็นการสรุปความจากการพูดคุย การประชุม หรือการศึกษาหาข้อมูลแล้วเขียนเป็นรายงานออกมา ตัวนี้อาจารย์ใช้บ่อยครับเวลาจัดงานสำคัญ ๆ ต้องมีการทำ Compte rendu ปิดท้ายทุกที สำหรับอ. ต้น ไม่ว่าเราจะเขียนแบบไหน ถ้าเรามีข้อมูลจริง แน่น เป็นเหตุเป็นผลมันก็เป็นการเขียนที่ดีได้ครับ อย่าให้น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งเน่าตายก็พอ เรียนไว้ดีแล้วครับ คนไทยค่อนข้างขาดประสบการณ์ด้านนี้ เวลาพูดก็เลยลำดับความคิดไม่เป็น โต้แย้งไม่เป็น เชื่อมความคิดไม่เป็น สรุปจับใจความสำคัญไม่เป็น เอ่อ ขาดเยอะครับ จากประสบการณ์ล่าม ที่ต้องคอยจับความคิดคนอื่น ทำให้อาจารย์เห็นว่าคนไทยอ่อนตรงนี้จริง ๆ เมื่อเที่ยบกับฝรั่ง แต่ฝรั่งที่เบอะบะพูดไม่ลำดับความคิดก็มีนะครับ แต่ค่อนข้างน้อย แล้วก็จะไม่ค่อย "พล่าม" เหมือนคนไทย ที่พูดนี่ไม่ได้นินทาคนไทยกันเองนะ (ก็เกือบ ๆ แหละที่จริง) แต่ต้องการบอกว่าการเรียนเขียนนั้น ทำให้เรารู้จักคอนโทรลกระแสความคิด และสามารถสื่อในสิ่งที่คิดได้ เรียนไว้น่ะดีแล้วครับ
By อาจารย์ต้น Date 2009-09-02 22:38:04 IP : 124.120.188.49


Opinion No. 8 (3100799)
พล่าม ภาษาเหนือ คือ เวิ้นเว้อ.......................
By เพลง (narinnn-at-hotmail-dot-com)Date 2009-09-29 10:57:11 IP : 202.28.182.12


Opinion No. 9 (3277869)

หนูก้อเรียนอยู่ค่ะแต่เขียนประโยคไม่เป็นและไม่เข้าใจเลย

อยากทราบว่ามีหลักการเขียนยังไงค่ะ

By jell Date 2011-01-23 19:52:33 IP : 125.24.33.114


Opinion No. 10 (3277876)
โอ้ กระทู้นี้เก่าแก่จัง จะเขียนได้ดีคงต้องอ่านเยอะๆ น่ะครับ ต้องใช้เวลา สะสมไปเรื่อยๆ มีผู้รู้คอยแก้ไขให้ (แม้แต่ภาษาแม่เอง ถ้าไม่ได้ผ่านการเขียนการอ่านบ่อยๆ จนชำนาญ การจะเขียนได้ดีก็เป็นเรื่องยาก) ไวยกรณ์ก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ประเด็นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน คือที่สำคัญอย่าหลงประเด็น ถ้าเป็นข้อสอบการเขียน ก็มักต้องการเหตุผลสนับสนุนความคิดเรา แล้วก็บทสรุป
By ไวศย Date 2011-01-23 20:19:54 IP : 115.87.232.215


Opinion No. 11 (3277879)

ใช่ ๆ กระทู้นี้เก่าจริง

1. เวลาเขียนภาษาฝรั่งเศส ต้องเตรียมข้อมูลเป็นภาษาฝรั่งเศส

2. ก่อนจะเขียนต้อง มีความรู้ เด็ก ๆ มักจะเขียน โดยไม่มีความรู้ ดังนั้น ก่อนเขียน ต้องไปหาความรู้ครับ

3. ก่อนเขียนต้องทำเอาท์ไลน์ หรือ กรอบความคิด เพื่อลำดับเรื่องและความคิดที่เราจะนำเสนอ อันนี้เด็กไม่ทำ พอไม่ทำก็เขียนไม่ได้ เขียนไม่ได้ก็มาร้องแง ๆๆ ว่าทำไม่ได้ อ้าว ก็ไม่เขียนเอาท์ไลน์ก่อนนี่ ฮา

4. เรียนรู้วิธีการพูดแบบของเขา อย่าเอาภาษาเราเป็นตัวตั้ง เพราะรูปแบบการคิดต่างกัน รูปแบบประโยคต่างกัน ถ้าเอาภาษาไทยเป็นตัวตั้ง ตอบได้คำเดียว เน่า คิกๆ

5. พื้นฐานศัพท์ต้องดีหน่อย ไวยากรณ์ก็ต้องมากหน่อยครับ ถ้าไม่มีสองส่วนนี้ นึกไม่ออกว่าจะเขียนให้ดีได้อย่างไรจริงๆ

6. ฝึกบ่อย ๆ ครับ ไม่ได้ฝึกเขียนอย่างเดียว ฝึกอ่านประโยคยาก ๆ แล้วบันทึกไว้ว่า เวลาเขาจะสื่อความคิดแบบนี้ เขาเขียนกันแบบนี้ แล้วสักวันเราจะเก่งครับ

 

By อาจารย์ต้น Date 2011-01-23 20:28:44 IP : 124.120.188.168


Opinion No. 12 (3279326)
ตัวอย่างภาษาดีๆ เข้าไปดูได้ใน www.courrierinternational.com
By เพลง Date 2011-02-01 09:21:59 IP : 69.9.70.204


Opinion No. 13 (3279432)
ใช่แล้ว อาจารย์ต้นก็เรียนภาษาจากหนังสือพิมพ์เล่มนี้มาตั้งนานแล้ว เป็นหนังสือพิมพ์ในดวงใจเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นการ reprendre et traduire ข่าวจากหนังสือพิมพ์อื่น แต่ว่าภาษาดีมาก ชอบเป็นการส่วนตัวจริงๆ
By อาจารย์ต้น Date 2011-02-01 17:16:27 IP : 124.120.193.71


Opinion No. 14 (3279520)
ครับอาจารย์ มาแปลมา แต่ก็แปลมาจากประเทศแปลกๆด้วย มีของไทยด้วยนะครับ บางที แต่ภาษาเขียนมันก็ค่อยข้างจะเป็นทางการ อาจารย์คิดว่า ถ้าหลักสูตร ที่ประเทศเรา จะเพิ่มน้ำหนัก ให้แปลจาก ไทยเป็นฝรั่งเศสบ้างจะดีหรือเปล่า นวนิยายไทยที่เขียนยากๆ รู้สึกจะถูกจริตของคนที่พูดภาษาฝรั่งเศสมากเลย คนประเทศ anglophone จะว่าไป มีรสนิยมไปอีกแบบ ไม่รู้สึกครับจารย์ รู้สึกว่าอย่าง อเมริกาจะออกแนวMassไปนิด
By เพลง Date 2011-02-02 06:16:50 IP : 69.9.90.19


Opinion No. 15 (3279644)
ทางมหาวิทยาลัยก็ส่งเสริมให้มีการแปลไปสู่ภาษาฝรั่งเศสนะครับ เพียงแต่ว่า เราจะหาทรัพยากรบุคคลที่เป็นคนไทยและลุ่มลึกในภาษาฝรั่งเศสอย่างสุด ๆ นั้น ไม่ง่ายเลย อีกทั้งงานแปลต้องใช้เวลามาก ถ้าไม่ได้ทุนสนับสนุนดี ๆ ก็คงไม่ใครอยากทำหรอกครับ ปากท้องมันบังคับให้ต้องทำอย่างอื่นก่อน ฮา
By อาจารย์ต้น Date 2011-02-02 22:16:33 IP : 124.120.187.224


Opinion No. 16 (3279656)
ตอนนี้ take course on line กับ European Commission อยูครับ หลักจากจบหลักสูตร การปฎิรูประบอบประชาธิปไตยและระบบตลาดแบบเสรี จาก CIPE แล้ว ความจริงถ้าให้ใครคนไทยลุ่มลึกทางภาษาฝรั่งเศส เราต้องส่งเสริมคนของเราให้ออกไป ทำงานเชิงพัฒนาในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสด้วย จริงๆ พวกคนของเราไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นเลย หากมีโอกาสออกมา ตลาดแรงงานมันเหมือนอิ่มตัว เพราะคนของเรา passive ไม่ออกมาทำงานที่ต่างประเทศกันเอง จีนแดง หรือพวกคนอินเดีย รู้สึกว่าจะไปหมด ทุกที่เลย
By เพลง Date 2011-02-03 00:14:59 IP : 69.9.90.19


Opinion No. 17 (3279658)
คณะนิติศาสตร์ ก็ควรจะกล้าทำหลักสูตร ปีสามปีสี่ให้เป็นภาษาฝรั่งเศส ไปเลย (แบบว่าให้เลือกได้) ก็ลองนึกดูพวกอาจารย์ว่า ถึงเวลาต้องไปเรียนที่โน่นจริงๆ แล้ว มักยากตรงภาษามากๆ ก็ควรจะเตรียมเด็กของเราออกไปให้ดีก่อน
By เพลง Date 2011-02-03 00:17:25 IP : 69.9.90.19


Opinion No. 18 (3307396)

 

              จริงๆนะคะ อาจารย์ต้น ถ้ามีการเปิดสอนหลักสูตรกฎหมายบางตัวให้เป็นภาษาฝรั่งเศส อย่างเช่น สาขาอาญา กับสาขาแพ่ง แล้วก็มีให้เลือกหลักๆ5 วิขาสำหรับผู้ที่ต้องการลงเป็นวิชาเลือก จะรีบไปสมัครกฎหมายมรดกและครอบครัว  กฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายหุ้นส่วนบริษัท และกฎหมายความร้บผิดชอบทางแพ่ง หรืออาญาหรือกฎหมายมหาชนเบื้องต้น น่าสนุกมากเลยค่ะ (สมัครเป็นอาจารย์สอนพิเศษน่ะค่ะ) หรือง่ายหน่อยสอนการเขียน  5 5 55  แต่คิดว่าถึงตอนนั้นก็แก่เกินไปเสียแล้ว 5 55

By N.A. (ariya2010-at-yahoo-dot-fr)Date 2011-08-16 19:38:55 IP : 58.9.198.135


Opinion No. 19 (3307405)

เป็นการขุดกระทู้ที่เข้ากับช่วงพอดีเลยครับ ฮ่าๆ มีคนฝรั่งเศสมาทักในเฟส

ทั้งๆที่เป็นการพิมพ์แท้ๆ อะไรที่นึกอยากจะตอบ ก็ดันนึกไม่ออกอีกว่าต้องเรียงอะไรยังไง ฮ่าๆ

แปลความหมายที่เขาเขียน ได้ทุกประโยค แต่พอจะเขียนตอบ เน่าซะงั้น เรียบเรียงไม่ถูกเลยครับ ฮ่าๆ

By บลิว Date 2011-08-16 20:06:17 IP : 223.207.185.39


Opinion No. 20 (3307421)
เวลาใช้ภาษาจริง อย่ากลัวว่าจะผิดหรือถูกจนเกินไปนะครับ เพราะมันจะทำให้สุดท้ายเราไม่กล้าทำอะไรเลย บลิวเขียนไปอย่างที่ใจอยากเขียนเถอะ แล้วครั้งหน้าถ้าจะเขียนอย่างเดิมอีกครั้ง เราจะค่อยรู้ว่าเขียนแบบไหนดีกว่ากัน
By อาจารย์ต้น Date 2011-08-16 21:44:28 IP : 124.122.70.2


Opinion No. 21 (3307437)

ครับผม กึ่งนึงก็ดีใจอยู่ เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ใช้ภาษากับเจ้าของภาษาสักที หุหุ

แต่ตอนคุยกันเขาบอกว่าฝรั่งเศสเวลาช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมงเองหรอครับ

ทำไมที่อ่านๆมาเวลาของฝรั่งเศสช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมงอ่ะครับ

ตอนคุยกัน 19.30 เขาบอกที่ฝรั่งเศส 14.30 เอิ้กๆ

By บลิว Date 2011-08-17 02:39:45 IP : 223.207.185.39


Opinion No. 22 (3307461)
จะบอกว่า ตอนเรียนมัธยม เขียนแต่ระดับประโยคซึ่งความจริงมันน้อยไปงะ
By เพลง Date 2011-08-17 10:11:44 IP : 158.108.166.130


Opinion No. 23 (3307519)

มี 2 ช่วง ทั้ง 5 และ 6 สลับกัน อย่างละครึงปีโดยประมาณ

ตอนเรียนมัธยมก็มีความพยายามให้เขียนเป็นเรื่องนะครับ แต่อาจารย์ตรวจงานสติแตกไปหลายท่าน

By อาจารย์ต้น Date 2011-08-17 18:25:26 IP : 115.87.76.69


Opinion No. 24 (3307529)
ดูในข้อสอบแล้ว ภาษาโยงกับโลกความเป็นจริงมากขึ้น มีถามถึงขั้นว่า พูดแบบนี้ คนพูดรู้สึกอย่างไร อย่าง Conditionnel passe ผมเดาว่า น่าจะออกแนวเสียดายนะ ที่ไม่มั่นใจ ก็หลายข้อ ทีเดียวแหละ แต่ร้อยข้อแบบว่าเยอะมากงะ ต้องทำกันจนเหนื่อยแน่เลย
By เพลง Date 2011-08-17 19:57:55 IP : 58.11.127.160


Opinion No. 25 (4086440)

อาจารย์ต้นครับ สวัสดีครับ ผมมีปัญหาเรื่องการเขียน ภาษาฝรั่งเศสนะครับ เพราะผมจะต้องไปแข่งเขียนบรรยายภาพเป็นภาษาฝรั่งเศส เพราะผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงอ่ะครับ เลยมาปรึกษานะครับว่าเราควรจะเกริ่นยังไงก่อนนะครับ

By F60 Date 2017-11-05 19:30:41 IP : 27.55.116.22


Opinion No. 26 (4140928)

สวัสดีครับ ผมอยากรู้เเพทเทิร์นในการเขียนบรรยายภาพเป็นภาษาฝรั่งเศส ว่าตรงนี้เราควรใช้คำว่าอะไร ให้มันเป็นแนวเดียวกันหมดเลยเวลานำไปปรับจะได้ทำได้เร็วครับ

By Gakurokujodo Date 2018-10-15 09:26:49 IP : 49.229.61.100



[1]


Opinion
Opinion *
By  *
E-Mail 
Don't Display E-mail



Copyright © 2010 All Rights Reserved.