ผลการศึกษาใหม่พบว่าเจลาตินในผิวหนังของปลาไวทิงแปซิฟิก ซึ่งเป็นปลาที่มีอยู่มากมายบนชายฝั่งแปซิฟิกของอเมริกาเหนือ อาจช่วยป้องกันผิวหนังเหี่ยวย่นที่เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต ปลาไวทิงแปซิฟิกจับได้ปริมาณมากในสหรัฐอเมริกา แต่ผู้บริโภคไม่ค่อยคุ้นเคยกับปลาเนื้อขาวอ่อนๆ หรือที่เรียกว่าปลาเฮก เป็นที่นิยมในยุโรปแม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่มีการบริโภคมากที่สุดเป็นอันดับแปด ในสหรัฐอเมริกา 10 ชนิดที่มีการบริโภคมากที่สุดคิดเป็น 77% ของการบริโภคอาหารทะเลต่อหัวทั้งหมด และปลาไวทิงแปซิฟิกไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรก โดยศึกษาปลาไวทิงแปซิฟิก ผู้ช่วยศาสตราจารย์กำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและบรรเทาแรงกดดันต่อสต็อกของสัตว์ทั้ง 10 ชนิด ซึ่งรวมถึงปลาแซลมอนและปลาทูน่า เธอศึกษาสิ่งมีชีวิตในทะเลและศักยภาพของพวกมันในการปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์ และสนใจเป็นพิเศษในประโยชน์ต่อ ผิว จากส่วนต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น หนังปลา ซึ่งผู้บริโภคชาวอเมริกันจำนวนมากเลือกที่จะทิ้งแทนที่จะกิน หนังปลาเป็นทรัพยากรมากมายที่เราทราบดีอยู่แล้วว่ามีคุณสมบัติทางโภชนาการที่มีคุณค่า แต่เราต้องการทราบว่ามูลค่าที่เป็นไปได้เพิ่มเติมที่อาจพบได้จากสิ่งที่ถือเป็นผลพลอยได้ ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ในวารสาร Marine Drugs ควอนและทีมนักวิจัยได้พิจารณาวิถีทางของโมเลกุลที่มีส่วนทำให้เกิดรอยย่นในระดับเซลล์ของผิวหนัง รอยเหี่ยวย่นนั้นส่งเสริมโดยการสัมผัสแสงอัลตราไวโอเลตเป็นเวลานาน ซึ่งทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง